โมเดล‘สิ้นสุดโควิด’ไทย11มิ.ย.-ทั่วโลกพ.ย.63

04 พ.ค. 2563 | 05:10 น.

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออก แบบแห่งสิงคโปร์ (เอสยูทีดี) ได้จัดทำเว็บเพจ https://ddi.sutd.edu.sg/when-will-covid-19- end/ เพื่อประมวลข้อมูลและพยากรณ์ ถึงพัฒนาการตลอดจนช่วงเวลาสิ้นสุดของโรคระบาด โควิด-19” ในประเทศต่างๆ 131 ประเทศทั่วโลก มีการอัพเดตการพยากรณ์ทุกๆ วัน ตามข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในแต่ละประเทศ

เอสยูทีดีประเมินวงจรการเกิดโรคระบาดในแต่ละประเทศด้วยข้อมูลจริงที่เกิดขึ้น รวมทั้งข้อมูลในอดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้เห็นถึง จุดหักเหของสถานการณ์และระยะที่คาดว่า การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวจะสิ้นสุดลง (หมายถึงการมีผู้ติดเชื้อคนสุดท้าย)

การพยากรณ์ดังกล่าวจัดทำโดย นายเจี้ยนซี หลัว (Jianxi Luo) ผู้ทำการวิจัยของเอสยูทีดี ซึ่งเริ่มต้นการวิจัยด้วยข้อสงสัยว่าโรคระบาดโควิด-19 ในสิงคโปร์จะยุติลงเมื่อใด

จากข้อมูลที่ประมวลเมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา พบว่า สิงคโปร์เพิ่งอยู่ในช่วงต้นที่การติดเชื้อกำลังเร่งขยายตัว หรือเป็นกราฟขาขึ้น ขณะที่สหรัฐอเมริกา และอิตาลี ผ่านพ้นช่วงจุดหักเหไปแล้ว และกราฟกำลังเข้าสู่ทิศทางขาลง (ของกราฟทรงระฆังควํ่า) ใกล้ถึงระยะสิ้นสุดการแพร่ระบาด

ในส่วนของ ไทยนั้น เอสยูทีดีพยากรณ์จุดสิ้นสุดของการระบาดไว้เป็นระยะๆ ดังนี้ คือ คาดว่าจะสามารถควบคุมการระบาดได้ 97% (หรือตรวจพบผู้ติดเชื้อถึงระดับ 97% ของทั้งหมด) เมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา และจะคุมได้ 99% ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ก่อนจะสิ้นสุดการแพร่ระบาดหรือมีผู้ติดเชื้อคนสุดท้าย (100%) วันที่ 11 มิถุนายนนี้

 

โมเดล‘สิ้นสุดโควิด’ไทย11มิ.ย.-ทั่วโลกพ.ย.63

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (..) ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ได้โพสต์แสดงความเห็นว่า นับเป็นข่าวที่น่ายินดีที่สุด โดยติดแฮชแท็ก #ข่าวน่ายินดีสุดๆ ครับ

เช่นเดียวกับ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่โพสต์เฟซบุ๊กฝากมายังคนไทยทั้งประเทศว่า ประเทศไทยจะต้องร่วมมือกัน ช่วยกันให้เกิด New Normal โดยการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) และต้องทำ test and tracing (การตรวจหาเชื้อและย้อนรอยบุคคลที่ผู้ป่วยติดต่อด้วยเพื่อกักตัวเฝ้าระวังอาการ) เพื่อจำกัดการเกิดผู้ป่วยรายใหม่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ขณะที่ โลกจะต้องเผชิญโควิด-19 ยาวนานกว่านั้น แต่ก็คาดว่าจะสิ้นสุดการแพร่ระบาดในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 (ตัวเลขพยากรณ์ทั้งหมดดังกล่าวข้างต้น เป็นข้อมูล วันที่ 26 เมษายน แต่หลังจากนั้นจะมีการอัพเดตทุกวันและมีการเปลี่ยนแปลงได้)

 

โมเดล‘สิ้นสุดโควิด’ไทย11มิ.ย.-ทั่วโลกพ.ย.63

 

ข้อมูลใหม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน การพยากรณ์ว่าโรคระบาดโควิด-19 จะสิ้นสุดลงเมื่อใด เป็นเรื่องยากเพราะอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน แต่กระนั้น เนื่องจากมีการเก็บข้อมูลรูปแบบการแพร่ระบาดของโรคเมื่อในอดีตเอาไว้ ประกอบเข้ากับข้อมูลการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบันที่มีการเก็บอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะนำข้อมูลเข้าสู่สูตรการคำนวณเพื่อประมวลออกมาว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะสิ้นสุดลงเมื่อใด


 

นอกจากนี้ เมื่อมีข้อมูลเข้ามาเพิ่มขึ้นทุกวัน ก็จะมีการปรับการพยากรณ์ทุกวันตามการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลที่เข้ามาการเฝ้าติดตามพยากรณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ในอนาคต เช่น การพยากรณ์จุดสิ้นสุดของโรคระบาด โดยใช้ข้อมูลล่าสุดในแต่ละช่วงเวลา ทำให้รัฐบาลประเทศต่างๆ รวมทั้งองค์กรธุรกิจสามารถวางแผน ตัดสินใจ และมีความรู้สึกหรือการกระทำอย่าง มีข้อมูลสำหรับอนาคตมากขึ้น ทำให้สามารถดำเนินการในเชิงป้องกันหรือเชิงรุกได้ดีขึ้น

ในทางตรงข้าม การติดตามสถานการณ์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน เป็นเพียงการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด การหายป่วย และการเสียชีวิต ตามที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละวัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะนำไปสู่การกำหนดนโยบายหรือมาตรการเชิงรับ เช่น มาตรการล็อกดาวน์ที่ถูกนำมาใช้เมื่อมีการรายงานการติดเชื้อจำนวนมาก

ทั้งนี้ ผู้วิจัยตั้งข้อสังเกตว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีรูปแบบ มีวงจรชีวิตตั้งแต่จุดแรกเริ่มการแพร่ระบาด ช่วงขยายลุกลาม ช่วงที่เป็นจุดหักเห ระยะชะลอการแพร่เชื้อ และสุดท้ายก็เป็นระยะที่การแพร่กระจายของโรคสิ้นสุดลง ซึ่งวงจรดังกล่าวเป็นผลมาจากพฤติกรรมปรับตัวและรับมือทั้งในระดับปัจเจกบุคคล (เช่น การไม่สัมผัสตัวกัน หรือเว้นระยะห่างจากกัน) ไปจนถึงระดับรัฐบาล (เช่น การประกาศมาตร การล็อกดาวน์ เป็นเมืองๆ ไป หรือแต่ละรัฐ)

 รวมไปถึงปัจจัยที่เป็นข้อจำกัดตามธรรมชาติ แต่ละประเทศจะมีวงจรของการแพร่ระบาดแตกต่างกันไป ทำให้ ระยะเวลาการสิ้นสุดแตกต่างกันไป เช่น เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ขยายระยะเวลาการล็อกดาวน์ไปเป็นวันที่ 1 มิถุนายน หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งสูงขึ้น

ในวันเดียวกันนั้น นายจูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลี ประกาศแผนจะคลายมาตรการล็อกดาวน์และมีแผนจะเปิดเศรษฐกิจของประเทศอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม เป็นต้นไป

 

นักวิจัย ชี้ว่า การตัดสินใจและการวางแผนเช่นนี้ จะมีเหตุผลและหลักการรองรับก็ ด้วยการตระหนักรู้ว่า ประเทศของตัวเองนั้น (และของโลกในภาพรวมด้วย) อยู่ในขั้นไหน ระยะไหน ของวงจรการแพร่ระบาดของโรค จะถึงจุดหักเหเมื่อไหร่ และที่สำคัญคือ จะถึงจุดสิ้นสุดเมื่อไหร่

ทั้งนี้ การพยากรณ์คำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น ข้อมูลประชากร การพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ

การอ่านพยากรณ์ของแต่ละประเทศในตารางของเอสยูทีดีนี้ ต้องพิจารณาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายของรัฐบาลประเทศต่างๆ ประกอบควบคู่ไปด้วย ยกตัวอย่างในเดือนเมษายน รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศเพิ่มมาตรการควบคุมเข้มงวดมากขึ้น จึงทำให้อาจขึ้นถึงจุดหักเหเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า

ขณะเดียวกัน การรีบประกาศคลายมาตรการล็อกดาวน์ในบางประเทศเช่น อิตาลี และ สหรัฐอเมริกา ก็อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการติดเชื้อและส่งผลให้จุดสิ้นสุดของโควิด-19 ในประเทศนั้นๆ ต้องล่าช้าออกไปจากวันที่ที่พยากรณ์เอาไว้

 

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,571 วันที่ 3-6 พฤษภาคม 2563