“พม.”ย้ำแจกเงิน2,000 เฉพาะผู้มีปัญหาทางสังคม

28 เม.ย. 2563 | 06:07 น.

“โฆษกพม.” เผยไม่แจกเงินทุกคน ย้ำให้ดูแลเฉพาะผู้ประสบปัญหาทางสังคม แจงไม่ถูกตัดสิทธิ์แม้ได้รับสิทธิช่วยเหลือจากคลัง-แรงงาน-เกษตรฯ

นางพัชรี อาระยะกุล

 

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นางพัชรี อาระยะกุล รองปลัดกระทรวงพม. ในฐานะโฆษกกระทรวงพม. กล่าวถึงกระแสที่กระทรวงพม. จะแจกเงินเยียวยา 2 พันบาทให้กับประชาชนทุกคน ว่า ในเรื่องดังกล่าวนี้เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง และเงินดังกล่าวไม่ใช่เงินเยียวยา แต่เป็นเงินช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม และไม่ใช่การแจกให้กับทุกคน

 

โดยเกณฑ์การพิจารณาจะมีการส่งนักสังคมสังเคราะห์ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ครอบครัวผู้ที่ประสบปัญหา เช่น ครอบครัวดังกล่าวมีสมาชิกกี่คน ประสบปัญหาอย่างไรหรือไม่ อาทิ มีเด็ก ต้องการความช่วยเหลือเรื่องนมผง ผู้สูงอายุที่มีความต้องการแพมเพิร์ส หรือคนพิการ ที่จะต้องมีการปรับปรุงจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวก ทางราดหรือราวจับในห้องน้ำ

 

ดังนั้นแต่ละครอบครัวจะได้รับการช่วยเหลือที่แตกต่างกันตามความจำเป็นของสมาชิก ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ประสบปัญหา สามารถรับการติดต่อช่วยเหลือในส่วนของภูมิภาค ได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (สำนักงานพมจ.) และในส่วนของกทม.จะเป็นศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทรสายด่วน 1300 24 ชั่วโมง 


ในสถานการณ์โควิด-19 มีผู้ประสบความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นมาก นักสังคมสงเคราะห์อาจจะไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงได้แต่งตั้งให้อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) หรือท้องถิ่น สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นและส่งข้อมูลมายัง สำนักงานพมจ. เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ทั้งนี้ภายใน 24 ชั่วโมงที่ พมจ.จะรับเรื่องไว้ พร้อมทั้งแจ้งกลับว่าพมจ.ได้รับเรื่องแล้ว และจะเร่งให้การช่วยเหลือภายใน 48 ชั่วโมง หากมีปัญหาขอให้ติดต่อมายังช่องทางของพม. ซึ่งเราพร้อมดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ 
 

 

อย่างไรก็ตามกลุ่มคนที่จะได้รับความช่วยเหลือเนื่องจากมีปัญหาทางสังคม ถึงแม้จะได้รับเงินเยียวยา 5 พันบาทจากกระทรวงการคลัง สิทธิเกษตรกร ของกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ หรือเงินชดเชยกรณีว่างงานจากสำนักประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ก็มีสิทธิจะยื่นขอรับเงินช่วยเหลือดังกล่าว

 

โดยในส่วนนี้จะมีการประเมินทางสังคม โดยนักสังคมสงเคราะห์ ดูถึงข้อเท็จจริงว่าประสบความเดือดร้อนที่สมควรจะได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่ ทั้งนี้การช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายอย่างเร่งด่วนนั้นแต่ละกรมจะให้การดูแลเฉพาะหน้าไปก่อน สำหรับงบประมาณที่จะนำมาให้ความช่วยเหลือ จำนวน 2 พันบาท จะเป็นงบในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงพม. ที่อยู่ประมาณ 20 ล้านบาท

 

นอกจากนี้จะมีการแปลงบประมาณจากส่วนอื่นมาใช้ เช่น อบรม สัมมนา ประชุม โครงการที่ไม่สามารถดำเนินการได้ในช่วงนี้  ส่วนระยะเวลาการช่วยเหลือนั้น เดิมเรามีระเบียบพม. กำหนดการช่วยเหลือไว้อยู่แล้ว ซึ่งปกติจะช่วยเหลือผู้ประสบปัญหารายเดิมปีละไม่เกิน 3 ครั้ง ครั้งละ 2 พันบาท

 

แต่ขณะนี้มีผู้ประสบปัญหาเพิ่มมากขึ้น เบื้องต้นจึงจะให้การช่วยเหลือกับผู้ประสบปัญหารายเดิมปีละ 1 ครั้งก่อน ยกเว้นคนที่ประสบปัญหา เดือดร้อน ต้องการได้รับความช่วยเหลือซ้ำ ทั้งนี้รายชื่อผู้ที่จะได้รับความช่วยเหลือในปีต่อไป หากพบว่ายังยากลำบากก็สามารถจะให้การช่วยเหลือต่อไปได้เรื่อยๆ