นิคมฯฉงจั่วโชว์จุดแข็ง"โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม-ต้นทุนขนส่งต่ำ"เหนือคู่แข่ง

28 เม.ย. 2563 | 05:44 น.

นิคมอุตสาหกรรมจีน-ไทย ฉงจั่ว ตั้งอยู่ทางตะวันออกและเหนือของเมืองฉงจั่ว อยู่ห่างจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม 240 กิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพฯ ประเทศไทย 1,700 กิโลเมตร ห่างจากท่าเรืออ่าวเป่ยปู้ 130 กิโลเมตร ห่างจากฮ่องกง 800 กิโลเมตร และห่างจากนครหนานหนิง 70 กิโลเมตร

นิคมฯฉงจั่ว มีเนื้อที่ 100 ตารางกิโลเมตร เป็นนิคมฯที่มณฑลกว่างซีให้ความสำคัญต่อการพัฒนา จัดตั้งขึ้นเพื่อเข้าร่วมข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” และกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างจีน-อาเซียน จากความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ที่โดดเด่น ทำให้ในปัจจุบันนิคมฯ กำลังเดินหน้าสร้างฐานอุตสาหกรรม Cold Chain Logistics อุตสาหกรรมอาหารภูมิภาคอาเซียน และอุตสาหกรรมการให้บริการและการท่องเที่ยวสไตล์ไทย

   นิคมฯฉงจั่วโชว์จุดแข็ง"โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม-ต้นทุนขนส่งต่ำ"เหนือคู่แข่ง        

หลิว โหย่วหมิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเมืองฉงจั่ว เคยกล่าวไว้ในรายการมนต์เสน่ห์เมืองจีน (Charming China) ว่า “ฉงจั่วนำเข้าผลไม้เมืองร้อนปีละประมาณ 38 ชนิด คิดเป็นครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศ ผลไม้เมืองร้อนที่เรารับประทานกัน อย่างทุเรียน มังคุด และชมพู่ มีถึงครึ่งหนึ่งที่นำเข้าผ่านทางเมืองฉงจั่ว”

จะรักษาความสดใหม่ของผลไม้นำเข้าที่ต้องผ่านกระบวนการขนส่งอันยาวนานได้อย่างไร? เทคโนโลยีโลจิสติกส์ห่วงโซ่ความเย็น หรือ “Cold Chain Logistics” จะเข้ามารับบทบาทสำคัญในจุดนี้ ซึ่งเมืองฉงจั่วมีปัจจัยหลายประการที่เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม Cold Chain Logistics

นิคมฯฉงจั่วโชว์จุดแข็ง"โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม-ต้นทุนขนส่งต่ำ"เหนือคู่แข่ง

ฉงจั่ว ‘นัมเบอร์ 1’ ด้านการค้า ความได้เปรียบที่เหนือกว่าคู่แข่ง

เมืองฉงจั่ว ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีพรมแดนติดกับเวียดนาม เป็นเมืองข้อต่อสำคัญทางตอนใต้ในข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” และเป็นบานหน้าต่างทางความร่วมมือสู่อาเซียนที่สำคัญของจีน ฉงจั่วครองแชมป์เมืองการค้าชายแดนอันดับ 1 ของจีนมา 10 ปีต่อเนื่อง และในปี 2559-2560 ยังถูกจัดให้อยู่ในลิสต์ “100 อันดับ เมืองการค้าระหว่างประเทศของจีน” ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน

ด้านการค้าผลไม้ ฉงจั่วครองแชมป์เมืองที่ทำการค้าผลไม้กับอาเซียนมากที่สุดของจีน และเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการนำเข้าส่งออกผลไม้เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ขอบเขตหลักของการให้บริการโลจิสติกส์ในเมืองฉงจั่ว ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อาทิ ธัญพืช และผลไม้เมืองร้อนแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมไปถึงอาหารแปรรูป สินค้าเวชภัณฑ์ การขนส่งและเก็บรักษาสินค้าพิเศษที่ต้องแช่เย็น

จุดแข็งด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม

การคมนาคมเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาโลจิสติกส์ ปัจจุบันการก่อสร้างระบบการคมนาคมและโลจิสติกส์ในเมืองฉงจั่วกำลังมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เส้นทางโลจิสติกส์จากเมืองผิงเสียงไปยังเวียดนาม ไทย ลาว และมาเลเซีย ได้ประกอบกันเป็นโครงข่ายโลจิสติกส์สายทองคำ 3 เส้นที่เชื่อมโยงถึงกัน

1) ผิงเสียง – ท่าเรือไฮฟอง (เวียดนาม)

2) ผิงเสียง – ฮานอย (เวียดนาม) - โฮจิมินห์

3) ผิงเสียง – ลางซอน (เวียดนาม) – สะหวันนะเขต (ลาว) – มุกดาหาร (ไทย) – บูกิตกายูฮีตัม (มาเลเซีย) – สิงคโปร์ ขณะเดียวกัน สิ่งอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ในเมืองฉงจั่วก็ได้รับการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีโครงการโลจิสติกส์เพื่อการพาณิชย์ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการแล้วหลายแห่ง เช่น นิคมฯโลจิสติกส์ผิงเสียงเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน (CAFTA PingXiang Logistic Park) ที่ลงทุนโดยรัฐบาลเมืองฉงจั่ว, ศูนย์โลจิสติกส์สินค้าเกษตรระหว่างประเทศฉงจั่ว(อาเซียน) (Chongzuo (ASEAN) International Agricultural Logistics Trading Center), เขตโลจิสติกส์อ้ายเตี้ยนหนิงหมิง, ศูนย์ผลไม้จีน(ผิงเสียง)-อาเซียน (China-ASEAN Pingxiang Fruits City) และโครงการเมืองการค้าชายแดนจีน ฯลฯ

นิคมฯฉงจั่วโชว์จุดแข็ง"โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม-ต้นทุนขนส่งต่ำ"เหนือคู่แข่ง

ต้นทุนขนส่งข้ามพรมแดนที่ต่ำลง

 “ระบบแจ้งสำแดงสินค้าล่วงหน้า ได้เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกด้านพิธีการศุลกากร และแก้ปัญหาสินค้าค้างด่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2562 เป็นต้นมา ด่านโหย่วอี้กวานได้นำระระบบ“แจ้งสำแดงสินค้าล่วงหน้า ตรวจปล่อยรถหน้าด่าน”มาใช้ ช่วยย่นระยะเวลาผ่านด่านศุลกากรได้ถึง 60% ระยะเวลาที่ใช้ยกไม้กั้นเฉลี่ย 34.12 วินาที/ครั้ง

นอกจากนี้ การเปิดให้รถจากเวียดนามสามารถผ่านเข้าเขตโรงงานได้โดยตรง ยังช่วยลดต้นทุนขนส่งได้ถึง 3,000-5,000หยวน/คัน ส่งผลให้สินค้าทางการเกษตรและอาหารทะเลนำเข้าจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถเดินทางถึงนครฉงชิ่งได้โดยใช้เวลาเพียง 8 วัน....มาตรการริเริ่มใหม่ระดับประเทศ 12 เรื่อง และมาตรการผู้นำระดับเขต 15 เรื่อง ได้เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านพิธีการศุลกากรเป็นอย่างมาก

นิคมอุตสาหกรรมจีน-ไทย ฉงจั่ว พร้อมเดินหน้าพัฒนาจุดเด่นใหม่ด้านอุตสาหกรรม Cold Chain Logistics อย่างจริงจัง ชูแนวคิดปฏิรูปพัฒนาเปิดกว้าง ต้อนรับนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก