พาณิชย์เผย Q1 ยอดจดทะเบียนใหม่ลดลง6%

28 เม.ย. 2563 | 04:14 น.

ยอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่ไตรมาสแรกปีนี้ลดลง1,335ราย หรือ6% โดยธุรกิจก่อสร้างยังครองแชมป์ทั้งยอดจดใหม่และยกเลิกกิจการตามภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่ต่างชาติเพิ่มขึ้น14%  ญี่ปุ่นยังคงสนใจลงทุนในไทยต่อเนื่อง

นายวุฒิไกร  ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  เปิดเผยถึงยอดจดทะเบียนธุรกิจเดือนมีนาคม  และไตรมาส 1/2563  ว่ายอดจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนมีนาคมมีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศจำนวน 6,066 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 24,576 ล้านบาท  โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 579 ราย คิดเป็น  10%  รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 370 ราย คิดเป็น 6% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร จำนวน 157 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ 

 พาณิชย์เผย Q1 ยอดจดทะเบียนใหม่ลดลง6%

ส่งผลให้ไตรมาส1ปี2563 ธุรกิจจัดตั้งใหม่ จำนวน 19,415 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2562 จำนวน 20,750 ราย ลดลงจำนวน 1,335 ราย คิดเป็น 6%  แบ่งเป็น ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 1,809 ราย   คิดเป็น9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 1,053 ราย คิดเป็น5% และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 573 ราย คิดเป็น 3%   โดยมีมูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ในไตรมาส 1/2563  มีจำนวน 71,130 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 1/2562 จำนวน 52,391 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 18,739 ล้านบาท คิดเป็น 36%

“จำนวนการจัดตั้งธุรกิจในเดือนมีนาคม 2563 มีจำนวน 6,066 ราย ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2563 (MoM) เล็กน้อย จำนวน 341 ราย (-5%) และจำนวนการจัดตั้งธุรกิจในไตรมาสที่ 1/2563 มีจำนวน 19,415 ราย ซึ่งพบว่ามีจำนวนใกล้เคียงกัน เมื่อเปรียบเทียบการกับการจดทะเบียนในไตรมาสที่ 1 ย้อนหลัง 5 ปี (2559 – 2563) เนื่องจาก ผู้ประกอบการอาจอยู่ระหว่างรอดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทย และผลกระทบจากการถดถอยของเศรษฐกิจโลก และผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาที่มีผลกระทบต่อประชาชนทั่วโลก”

 พาณิชย์เผย Q1 ยอดจดทะเบียนใหม่ลดลง6%

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ เดือนมีนาคมมีจำนวน 947 ราย มีมูลค่า ทุนจดทะเบียนจำนวน 4,529 ล้านบาท  ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 83 ราย       คิดเป็น 9%  รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 60 ราย คิดเป็น 6%  และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 31 ราย คิดเป็น 3% โดยในช่วง 1 มีธุรกิจเลิกประกอบกิจการ จำนวน 3,169 ราย  เทียบกับไตรมาส 1/2562 จำนวน 3,288 ราย ลดลงจำนวน 119 ราย คิดเป็น 4% ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ปกติที่จะมีแนวโน้มของการจดทะเบียนเลิกประกอบธุรกิจ ซึ่งประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 337 ราย คิดเป็น 11%  รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 183 ราย คิดเป็น 6 % และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 92 ราย คิดเป็น 3%  มูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ  ในไตรมาส 1มีมูลค่า 14,456 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 1/2562 จำนวน 9,995 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 4,460 ล้านบาท คิดเป็น 45%

 พาณิชย์เผย Q1 ยอดจดทะเบียนใหม่ลดลง6%

ส่วนธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ อยู่ทั่วประเทศ ณ เดือนมีนาคม  จำนวน762,229 ราย  มูลค่าทุน 18.56 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด / ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 187,116 ราย คิดเป็น 24.55% บริษัทจำกัด จำนวน 573,852 ราย คิดเป็น 75.29%  และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,261 ราย คิดเป็น 0.16%

ขณะที่การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว เดือนมีนาคม2563  มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 67 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 21 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 46 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 7,988 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จำนวนธุรกิจที่คนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น14%  นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 18 ราย เงินลงทุน 3,186 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 11 ราย เงินลงทุน 1,116 ล้านบาท และเนเธอร์แลนด์ 6 ราย เงินลงทุน 757 ล้านบาท  ซึ่ง ไตรมาส 1/2563  คนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ จำนวน 180 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 29,026  ล้านบาท