นักศึกษา มธ. โชว์ไอเดียเฉียบ คว้ารางวัล “ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม 2020”

นายธนยศ ครุฑระเบียบ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การแข่งขัน “ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม 2020” ครั้งที่ 17 ในปี ทีม ALL in This toCAGR จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ประกอบด้วย นางสาวธนาภรณ์ สุขจิตต์นิตยกาล นางสาวสุดามาศ เก่งรุ่งเรืองชัย และนางสาวปทิตตา ตันชูเกียรติ นักศึกษาคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ชั้นปีที่ 4 เป็นทีมผู้ชนะเลิศ จากผลงาน “การ์นิเย่ ไมเซล่า คลีนซิ่ง คิวบ์” 

ภายใต้สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) ลอรีอัล ประเทศไทย ได้คำนึงถึงความปลอดภัยและสุขภาพของผู้มีส่วนร่วมทุกคน จึงได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขัน ด้วยการจัดการแข่งขันรอบ “Innovation Fair” และการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งหมด ซึ่งได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิร่วมตัดสิน ประกอบไปด้วย คุณอินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ และ คุณคริส ไดร์ฟเวอร์ ผู้จัดการทั่วไป แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด และ รศ.ดร. ดวงดาว อาจองค์ นักวิจัยสตรีผู้ได้รับทุนจากโครงการทุนวิจัย ลอรีอัล ประเทศไทย “เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์” หรือ For Women in Science และรองศาสตราจารย์ ประจำภาควิชาวัสดุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ทีม All In This toCAGR คว้ารางวัลชนะเลิศ ได้นำเสนอกลยุทธ์การตลาด และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “การ์นิเย่ ไมเซล่า คลีนซิ่ง คิวบ์” ตอบโจทย์ “BUILD A PLASTIC-LESS FUTURE IN THE BEAUTY INDUSTRY” หรือ “สร้างสรรค์อุตสาหกรรมความงามเพื่อสิ่งแวดล้อมแห่งอนาคต” ให้กับแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค เน้นการคิดค้นนวัตกรรมที่สามารถช่วยลด หรือทดแทนการใช้พลาสติกในอุตสาหกรรมความงาม 

ตัวแทนทีม All In This toCAGR อธิบายที่มาของผลงานว่า เกิดขึ้นจากความสนใจในแบรนด์การ์นิเย่ ที่เป็นแบรนด์ความงามสุขภาพดีจากธรรมชาติ แนวคิดในการพัฒนาผลงานชิ้นนี้ ทีมมีความตั้งใจที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงคิดค้นนวัตกรรมในการบีบอัด การ์นิเย่ ไมเซล่า คลีนซิ่ง วอเตอร์ ให้อยู่ในรูปแบบก้อนลูกบาศก์หรือคิวบ์ ที่สามารถละลายในน้ำได้ โดยยังคงไว้ซึ่งความสะอาดต่อสภาพผิว ซึ่งหากนวัตกรรมได้ถูกพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์จริง จะสามารถลดน้ำหนักของผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ลดปริมาณการใช้น้ำในการผลิต และลดของเสียหรือขยะที่เกิดขึ้นจากบรรจุภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

นอกจากนั้น การ์นิเย่ ไมเซล่า คลีนซิ่ง คิวบ์ จะสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับการซื้อ การ์นิเย่ ไมเซล่า คลีนซิ่ง วอเตอร์ ขวดใหม่มาใช้ 

ส่วนแผนการตลาด ทีม All In This toCAGR ยังคิดพัฒนาเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ แคมเปญส่งเสริมการนำบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ซ้ำ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่อยากมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย 
 

หลังจากคว้ารางวัลชนะเลิศในไทย นักศึกษาทีมชนะเลิศ ALL in This toCAGR จะพัฒนาผลงานและทักษะ ให้ครอบคลุมรอบด้านมากยิ่งขึ้น เพื่อให้พร้อมเข้าร่วมแข่งขันต่อในระดับโลก ในเดือนมิถุนายน 2563 กับตัวแทนจากอีกกว่า 65 ประเทศทั่วโลก เพื่อชิงรางวัลประสบการณ์การทำงานที่ฝรั่งเศส Station F ฮับสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และโอกาสในการเข้าร่วม การประชุมสุดยอดผู้นำรุ่นใหม่ระดับโลกอย่าง One Young World Summit ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อปัญหาสำคัญในด้านต่างๆ ที่โลกกำลังเผชิญอยู่และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่โลกนี้ต่อไปอย่างยั่งยืน

สำหรับการแข่งขัน ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่ชอบความท้าทาย และต้องการที่จะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในการนำโซลูชั่นใหม่ๆ มาตอบโจทย์ทางธุรกิจของแบรนด์สากลระดับโลก และสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ซึ่งตลอดการแข่งขันนักศึกษาจะได้พัฒนาทักษะ เช่น entrepreneurship, innovative thinking และ team work ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการทำงานจริงและเป็นสิ่งที่บริษัทมองหา 

นักศึกษาที่เข้าร่วมการแข่งขัน "ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม" ตลอด 17 ครั้งที่ผ่านมา ล้วนเป็นเด็กที่มีศักยภาพสูง และสามารถเติบโตไปกับลอรีอัลได้ ซึ่งตลอดระยะเวลา 17 ปีตั้งแต่เริ่มโครงการ มีผู้เข้าแข่งขันกว่า 55 คน ได้เข้าทำงานในโครงการ Management Trainee (ผู้จัดการฝึกหัด) โดยตำแหน่งสูงสุดของอดีตผู้เข้าแข่งขัน ที่ทำงานกับลอรีอัล ประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้ คือ Brand General Manager (ผู้จัดการทั่วไปแบรนด์) ลอรีอัลจึงให้ความสำคัญกับการแข่งขัน และผู้เข้าแข่งขันเป็นอย่างมาก

ส่วนทีม The T(h)ree Hugger จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รับรางวัลเงินสด 50,000 บาท และทีม Tricologist  จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชนะรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รับเงินสด 30,000 บาท