รัฐนิวยอร์กเตรียมเปิดเศรษฐกิจ เฟสแรก”ภาคก่อสร้าง-การผลิต”

27 เม.ย. 2563 | 04:43 น.

ผู้ว่าฯนิวยอร์กเผยเตรียมเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังโควิด-19 ผ่านจุดพีคไปแล้ว โดยจะเปิดภาคการก่อสร้างและการผลิตก่อนในเฟสแรก และเฟสสองจะประเมินธุรกิจเป็นกรณีไป

นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า รัฐนิวยอร์กจะเริ่มดำเนินการทางเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่  หรือโควิด-19 ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยจะใช้กลยุทธ์เปิดเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไปทีละเฟส กลยุทธ คือ การเปิดภาคการก่อสร้างและการผลิตก่อนในเฟสแรก และเฟสสองจะประเมินธุรกิจเป็นกรณีๆไป ขึ้นอยู่กับความสำคัญของธุรกิจนั้นๆ

นายคูโอโม ระบุว่า แต่ละเฟสจะห่างกัน 2 สัปดาห์ เพื่อตรวจสอบผลกระทบของการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง และสร้างความมั่นใจว่าอัตราผู้ที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้ติดเชื้อจะไม่เพิ่มขึ้น

"ข้อแม้ประการหนึ่งคือคุณไม่สามารถทำอะไรในภูมิภาคใดๆ ที่อาจจะเป็นการเพิ่มจำนวนผู้มาเยือนยังภูมิภาคนั้น ๆ" นายคูโอโมกล่าว         

อย่างไรก็ตาม นายคูโอโมไม่ได้ระบุวันที่จะใช้กลยุทธ์ดังกล่าวอย่างชัดเจน แต่ระบุว่าบางส่วนของรัฐอาจเริ่มเปิดทำการในวันที่ 15 พ.ค. ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายในการยุติการชัตดาวน์ของรัฐในปัจจุบัน

นายคูโอโม กล่าวว่า พื้นที่ที่มีแนวโน้มว่าจะเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งในเร็วๆนี้ อาจจะเป็นตอนเหนือของนิวยอร์ก ที่ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต่ำเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น ๆ ของรัฐ         

นอกจากนี้ อัตราการติดเชื้อในรัฐนิวยอร์กยังลดลงเหลือ 0.8 ซึ่งหมายถึงการที่ผู้ติดเชื้อ 10 รายแพร่เชื้อต่อให้ผู้อื่นประมาณ 8 ราย

"เราต้องรักษาอัตราการติดเชื้อให้ต่ำกว่าระดับ 1 เพื่อชะลอการแพร่ระบาด" นายคูโอโมกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน

นายคูโอโม กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการเปิดเศรษฐกิจตอนล่างของนิวยอร์ก รวมถึงนิวยอร์กซิตี้ ซึ่งเป็นเขตที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุด รวมถึงเขตแนสซอ และเวสต์เชสเตอร์นั้น จะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องการการประสานงานระดับภูมิภาค

"การประสานงานในหลายรัฐนั้นเป็นเรื่องสำคัญเพราะรัฐนิวเจอร์ซีย์ รัฐคอนเนคทิคัต เขตนิวยอร์กซิตี้ นั้น มีการผสมผสานอย่างมาก" นายคูโอโมกล่าว "ผู้คนไป ๆ มา ๆ พวกเขาพักอยู่ในที่หนึ่ง ทำงานอีกที่หนึ่ง ดังนั้นการประสานงานกันจึงมีความสำคัญ"

ทั้งนี้ รัฐนิวยอร์กยังคงมีแนวโน้มผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจลดลงต่อเนื่อง และอัตราการเสียชีวิตปรับตัวลดลงเหลือ 367 รายในวันเสาร์ที่ผ่านมา