ทางเลือกนอกสายเลือด

30 เม.ย. 2563 | 00:37 น.

รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล

คณบดีคณะวิทยพัฒน์  และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

([email protected])

 

บิสิเนส แบ็กสเตจ

การสืบทอดกิจการเป็นเรื่องสำคัญและท้าทายอยู่เสมอสำหรับธุรกิจครอบครัว โดยเฉพาะการเผชิญกับความจริงในการถ่ายโอนอำนาจควบคุมธุรกิจไปสู่คนรุ่นต่อไปและวางมือจากธุรกิจเป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดสำหรับผู้นำธุรกิจครอบครัว ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของทั้งธุรกิจและครอบครัวด้วย ผู้เชี่ยวชาญของ KPMG Enterprise และ EFB คาดว่าการสืบทอดกิจการจะเป็นประเด็นสำคัญสำหรับธุรกิจครอบครัวยุโรปและทั่วโลกในอีก 5-10 ปีข้างหน้า

 

ดังนั้นธุรกิจครอบครัวจำเป็นต้องหาแนวทางในการกำหนดวิธีส่งผ่านกิจการไปสู่คนรุ่นต่อไปให้ดีที่สุด ทั้งนี้จากการสำรวจผู้บริหารธุรกิจครอบครัวกว่า 1,613 รายจาก 27 ประเทศในยุโรปของ KPMG พบว่า 35% ตั้งใจที่จะส่งต่อความเป็นเจ้าของธุรกิจให้กับคนรุ่นต่อไป ขณะที่ 33% วางแผนที่จะส่งต่อความรับผิดชอบในการบริหารให้กับคนรุ่นต่อไป และ 27 % วางแผนที่จะถ่ายโอนความรับผิดชอบในการกำกับดูแลไปสู่คนรุ่นต่อไปเช่นกัน บางทีตัวเลขนี้อาจบ่งบอกว่าการสืบทอดธุรกิจครอบครัวที่จะเกิดขึ้นนั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

ทางเลือกนอกสายเลือด

ทั้งนี้ยังพบว่าธุรกิจครอบครัว 84% ในปัจจุบันมีสมาชิกในครอบครัวดำรงตำแหน่งประธานหรือซีอีโอ แต่มีเพียง 62% เท่านั้นที่คิดว่าสมาชิกในครอบครัวจะดำรงตำแหน่งนี้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และที่น่าสนใจคือ 69% ของธุรกิจครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีพนักงาน 1,000 คนขึ้นไปและอายุกิจการยาวนานปัจจุบันมีซีอีโอที่เป็นสมาชิกในครอบครัว แต่มีเพียง 52% คาดว่ามีแนวโน้มที่จะดำรงตำแหน่งต่อไป ซึ่งชี้ให้เห็นว่าในขณะที่ธุรกิจครอบครัวในยุโรปเติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ซับซ้อนกว่าเดิมและครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังธุรกิจเหล่านี้กำลังตระหนักถึงความต้องการผู้นำที่แข็งแกร่งแม้จะมาจากภายนอกครอบครัวก็ตาม และการนำในซีอีโอคนนอกเข้ามาอาจเป็นวิธีบรรเทาความตึงเครียดในหมู่สมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่มีอายุมากกว่า 5 หรือ 6 ชั่วอายุคนแล้ว

อย่างไรก็ตามธุรกิจครอบครัวส่วนใหญ่มักจะเลือกสมาชิกในครอบครัวเป็นซีอีโอหากมีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยระหว่างแคนดิเดตที่เป็นสมาชิกในครอบครัวและคนนอก หรือหากไม่มีมูลค่าเพิ่มจากการนำคนนอกเข้ามา เนื่องจากการขับเคลื่อนเพื่อรักษาและคํ้าจุนวัฒนธรรมที่เป็นหัวใจของธุรกิจครอบครัวนั้นฝังลึกและไม่ใช่สิ่งที่ครอบครัวส่วนใหญ่จะให้คนแปลกหน้ามาทำเป็นเล่นได้ง่ายๆ ในการถ่ายโอนอำนาจการบริหารหรือการกำกับดูแลธุรกิจครอบครัวพบว่าความท้าทายที่สุดคือการหาคนที่เหมาะสม โดย 32% รู้สึกว่าเป็นเรื่องยากหรือยากที่สุดในการระบุตัวผู้สืบทอด

 

อย่างไรก็ตามสมาชิกในครอบครัวมักไม่เชื่อว่าการหาผู้สืบทอดจะทำได้ยาก

 

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,569 วันที่ 26-29 เมษายน 2563