นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการหารือผู้ผลิตสินค้าและเกษตรกรกลุ่มอาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูปและกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้ง ภาพรวมของอาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูปของไทยตัวเลขมูลค่าการตลาดทั้งหมดในภาพรวมของปีที่แล้ว 2562 ประมาณ 172,235 ล้านบาท ผลผลิตทั้งหมด 1,188,523 ตัน บริโภคในประเทศ 22 % ส่งออก 78%
สำหรับไตรมาสแรกปีนี้ ยอดส่งออกทั้งหมด 37,910 ล้านบาท ติดลบ 9.77% ซึ่งจากการหารือวันนี้พบว่า การล็อคดาวน์ของประเทศคู่ค้าหลายประเทศส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทย ดังนั้นได้หารือร่วมกันว่าจะช่วยกันพลิกฟื้นตัวเลขกลับมาเป็นบวกโดยคาดว่าในไตรมาส3และไตรมาส4จะเพิ่มตัวเลขกลับมาเป็นบวกได้
สำหรับส่งออกตลาดหลักประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีนและออสเตรเลีย โดยส่งออกไปสหรัฐฯ 21.4% ญี่ปุ่น 20.7% จีน 6.3% และออสเตรเลีย 5.4% โดยไทยส่งออกทูน่ากระป๋องเป็นลำดับหนึ่งของโลกมีส่วนแบ่งการตลาด 28.5% มูลค่าการส่งออกปี2562 มีมูลค่า 67,673 ล้านบาท สำหรับปีนี้น่าจะขยายตัว3%
อย่างไรก็ตามกระทรวงได้ร่วมกับภาคเอกชนในการกำหนด4มาตรการเพื่อผลักดันหารส่งออกอุตสาหกรรมอาหารทะเลแช่แข็ง-แปรรูป 4 มาตรการ ประกอบด้วย มาตรการที่1 การช่วยลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์โดยเฉพาะกระป๋อง ซึ่งส่วนใหญ่มีราคาที่ค่อนข้างสูง กรมการค้าต่างประเทศจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการช่วยนัดผู้ผลิตเหล็กผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กระป๋องและผู้แปรรูปและผู้ส่งออกในเรื่องอาหารทะเลมาพบเพื่อหาทางร่วมกันในการที่จะลดต้นทุน
มาตรการที่2 เร่งรัดในการเจรจา FTA กับสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร โดยอาจจะเดินหน้าทำ FTA กับแอฟริกาและกลุ่มประเทศยูเรเซียด้วยรวมถึงการผลักดันให้เกิดการลงนามในข้อตกลงRCEPให้ได้ในปีนี้
มาตรการที่3 กระทรวงพาณิชย์จะจับมือกับภาคเอกชนในการเดินหน้าหาส่วนแบ่งเพิ่มเติมประกอบด้วย 4 ตลาด 1.จีน 2.รัสเซีย 3.แอฟริกาใต้ 4.อเมริกาใต้ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศก็จะไปทำแผนงานที่เป็นรูปธรรมออกมาว่าเราจะจับมือเดินไปตลาดเหล่านี้ได้อย่างไรบ้าง
และมาตรการที่4การช่วยทำประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์อาหารไทยโดยเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัยของอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤติโควิดเพื่อให้คนทั้งโลกได้เกิดความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์อาหารจากประเทศไทยที่ส่งออกไปนั้นปลอดจากโควิด ซึ่งน่าจะช่วยให้ตัวเลขการส่งออกของกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารในไตรมาส3และไตรมาส4ดีขึ้น
ด้านายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่าไทย มีการทำตลาดอาหารสำเร็จรูปปลากระป๋องแช่แข็งจำนวนมากในประเทศ ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากโควิดส่งผลให้กลุ่มการบริการอาหาร เช่น ภัตตาคาร โรงแรม การบินการบินมีปัญหา แต่ส่งผลดีต่อซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ขายดีมากเพราะคนซื้อของกลับบ้านกิน จึงเป็นโอกาสทางการตลาดของอาหารแช่แข็ง