ผู้ถือหุ้น EA อนุมัติออกหุ้นกู้วงเงิน 1.5 หมื่นลบ.

24 เม.ย. 2563 | 03:07 น.

ผู้ถือหุ้น EA อนุมัติวงเงินหุ้นกู้ใหม่ 1.5 หมื่นล้านบ. ลงมติซื้อหุ้น"แลนด์ พรอสเพอริตี้ โฮลดิง" 19% และเช่าที่ดินสร้างโรงแบตจ่ายปันผล 0.30 บ./หุ้น รับเงินสด 22 พ.ค.นี้

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทางเลือก เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2563 มีมติอนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ (ใหม่) ในวงเงินไม่เกิน 15,000 ล้านบาท เป็นการขออนุมัติไว้เพื่อเตรียมการสำหรับกรณีที่หากพบว่ามีโอกาสเหมาะสมก็จะสามารถออกและเสนอขายหุ้นกู้ในต้นทุนที่ต่ำและเงื่อนไขที่ดีได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทในการนำเงินไปชำระคืนเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เดิม หรือใช้ในการดำเนินงาน และการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ของบริษัทฯ ได้

อกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังได้อนุมัติให้บริษัทฯเข้าลงทุนในบริษัท แลนด์ พรอสเพอริตี้ โฮลดิง จำกัด โดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 19% ของหุ้นทั้งหมด พร้อมทั้งอนุมัติให้บริษัท อมิตาเทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Amita Thailand ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯเข้าทำสัญญาสิทธิในการเช่าที่ดินบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อใช้สร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเฟสที่ 1 ขนาดกำลังการผลิต 1 กิ๊กะวัตต์ชั่วโมงต่อปี และโรงงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามเป้าหมายที่จะสร้างโรงงานให้แล้วเสร็จและเริ่มทำการผลิตได้ภายในปี 2563

ทั้งนี้ ประชุมมีมติให้จ่ายเงินปันผลประจำปี 2562 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท โดยจ่ายจากกำไรสะสมสำหรับกิจการที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน รวมเป็นเงิน 1,119 ล้านบาท  โดยให้วันที่ 20 มีนาคม 2563 เป็นวันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้นในการรับเงินปันผล (“Record Date”) และจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดภายในวันที่ 22 พฤษภาคม 2563

"ภาพรวมผลประกอบการปี 2563 จะสามารถสร้างสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง เนื่องจากธุรกิจโรงไฟฟ้าทั้งจากพลังงานลมและโซลาร์ฟาร์ม จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลังการผลิต 664 เมกะวัตต์ เป็นปีแรก และจะเริ่มรับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์สารเปลี่ยนสถานะหรือ PCM ที่จะเริ่มผลิตและส่งออกตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป โดยไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างไรก็ตาม ธุรกิจไบโอดีเซลมีแนวโน้มรายได้ที่ลดลงจากการลดการเดินทางและใช้ยานพาหนะที่น้อยลง ส่วนธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้ามีการปรับแผนเพื่อขยายเวลาการเริ่มผลิตและส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินและผลประกอบการของบริษัทแต่อย่างใด" นายอมรกล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงติดตามสถานการณ์ของ COVID-19 อย่างใกล้ชิด และมั่นใจว่าจะสามารถฝ่าวิกฤติในรอบนี้ไปได้อย่างแน่นอน โดยในปีนี้บริษัทฯคาดว่า น่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านพลังงานมาต่อยอดธุรกิจเดิม และสร้างเป็นระบบนิเวศน์รองรับทิศทางในอนาคต