เตือนคนกทม. กลับมาคึกคัก ย้ำ "การ์ดอย่าตก เพิ่งยก 4"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครบางส่วนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตมากขึ้น คล้ายว่าจะมีการ "ผ่อนปรนมาตรการ" โดยสังเกตุได้จากปริมาณการจราจรที่เริ่มหนาแน่นขึ้น รวมทั้งปริมาณการใช้บริการรถสาธารณะ อาทิ รถเมล์ ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งเป็นการกลับมาใช้ชีวิตท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ในประเทศไทย ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดน้อยลง จนล่าสุดวันนี้ (23 เม.ย.) พบเพียง 13 รายเท่านั้น 

วันที่ 23 เม.ย. 63 เวลา 11.30 น. นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.  แถลงห่วงใยและตอบคำถามสื่อมวลชนที่ถามถึงกรณีประชาชนกลับมาใช้บริการรถสาธารณะมากขึ้นว่า เป็นสิ่งที่น่าห่วง พอเราทำอะไรมาดีระยะหนึ่งอาจจะเบาใจ สบายใจคิดว่าเบาใจ สบายใจ น่าจะผ่อนปรนได้ รวมทั้งน่าจะมีเหตุผลอื่น เช่น ต้องหาเลี้ยงชีพ มีธุระ แต่ต้องไม่ลืมและต้องอยู่ในใจเสมอ ว่าเมื่อออกไปข้างนอกท่านมีความเสี่ยงจะรับเชื้อโควิด ถ้ามีหน้ากากอนามัยเสมอ ล้างมือเสมอ กินร้อน ช้อนตัว เว้นระยะห่าง ทำเป็นประจำ สัมผัสอะไรมาต้องไม่นำสัมผัสใบหน้า จะช่วยป้องกันได้ แต่ทั้งนี้ดีที่สุดคือหากมีกิจกรรมที่ไม่จำเป็นไม่ต้องไปก็ได้ 

โฆษกศบค. ยังฝากถึงหน่วยงาน บริษัทที่ดูแลขนส่งมวลชนต้องให้ความร่วมมือ ต้องไม่ทำให้การโดยสารแออัดเกินไป ผู้ประกอบการก็ต้องดูแล ตัวเองก้ต้องดูแลซึ่งกันและกัน 

"ตอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใหม่ๆประชาชนให้ความร่วมมือสูงมาก ตอนนี้ท่านก็ผ่อนมาก แต่ตอนนี้ต้องเฝ้ารอว่าอีก 7 วัน ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะท่านผ่อนวันนี้ก็ไม่ได้เห็นผลพรุ่งนี้แต่จะเห็นอีก 7 วันข้างหน้า ตอนนี้เดือนเมษายนเอง เพิ่งยก4 ยังต้องยืนยาวอีก 12 ยก ดังนั้นการ์ดอย่าตกนะครับ"นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

ส่วนการ ผ่อนปรนมาตรการ นายแพทย์ทวีศิลป์ ยืนยันว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าต้องศึกษาข้อมูลที่ชัดเจน โดยจะประชุมผ่านศบค.และเสนอครม. ดังนั้นจึงยังไม่มีประกาศแต่อย่างใด แต่แนวโน้มต้องยืดระยะเวลาของการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไป และต้องผ่อนปรนบ้าง แต่ยืนยันหลักการสองข้อดังกล่าวต้องรอมติครม.ก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจอะไร