ธุรกิจจะก้าวไกล ต้อง “โฟกัส”

25 เม.ย. 2563 | 07:20 น.

สิ่งสำคัญ คนเราต้องโฟกัส ถ้าเราทำหลายอย่าง ก็เหมือนเรารินน้ำในเหยือกหลายอัน...เมื่อก่อนเราเห็นโอกาส เราวิ่งเข้าใส่ เราลงทุนต่างประเทศ เราใจร้อน มั่นใจจนเกินไป

ในยุคที่การทำธุรกิจ ต้องเรียนรู้เร็ว ล้มเร็ว และต้องลุกให้เร็ว ในขณะที่ความเร็วทำให้ผิดพลาดง่าย “คุณวัธ-จิรโรจน์ พจนาวราพันธุ์” กรรมการผู้จัดการ เอสซี แกรนด์ หรือ บริษัท แสงเจริญ แกรนด์ จำกัด ได้รู้จากประสบการณ์ว่า ถ้าเร็ว ก็ต้องรู้จัก “โฟกัส”

 

“คุณวัธ” เริ่มต้นทำธุรกิจตั้งแต่เรียนจบ ลองทำมาหลายอย่าง ทำให้ได้เรียนรู้ความผิดพลาดหลายๆ อย่าง จนซึมซับว่าการที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ มีความสุข แต่ถ้าไม่ได้มองในมุมกว้าง บางสิ่งบางอย่างก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ และหากย้อนเวลากลับไป เขาบอกเลยว่าคงไม่เสียเวลาในบางอย่าง ไม่ลงไปทำในบางอย่าง และที่สำคัญคือ ต้องเรียนรู้ให้มาก และตอนนี้เขารู้แล้วว่า อะไรควรทำ อะไรควรรอ

 

จิรโรจน์ พจนาวราพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ เอสซี แกรนด์

 

ปัจจุบัน “คุณวัธ” มีธุรกิจในมือ คือ ธุรกิจรองเท้า แบรนด์ “Mango Mojito” ที่เริ่มต้นเมื่อราว 8 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นเขาอายุเพียงยี่สิบต้นๆ ซึ่งขณะนี้มีช็อปอยู่ที่ เกษรพลาซ่า ส่วนธุรกิจที่เขาโฟกัสอยู่ขณะนี้ คือ 2 ธุรกิจ ที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องของความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม

 

ธุรกิจตัวแรก คือ “วิถีไทย” คลาวน์แฮนด์คราฟต์ งานที่ทำร่วมกับชุมชน วิถีไทยทำหน้าที่เป็นตัวกลาง เล่าเรื่องราว ทำแพ็กเกจจิ้งให้ดีน่าสนใจ สร้างแพลตฟอร์มในการซื้อขายของจากชุมชนเหล่านั้น 

 

เพื่อให้แบรนด์ต่างประเทศ ลูกค้าต่างประเทศ หรือโรงแรมต่างๆ ที่สนใจผลิตภัณฑ์งานมือจากชุมชน เข้ามาเลือกซื้อ ลักษณะการทำงานคล้ายกับอาลีบาบา

 

ส่วนอีกหนึ่งธุรกิจ คือ เอสซี แกรนด์ ที่เป็นการต่อยอดจากธุรกิจครอบครัว ที่เริ่มต้นด้วยการทำโรงงานปั่นด้ายสำหรับลูกค้ากลุ่มผ้าทอในต่างจังหวัด สู่การปั่นด้ายรีไซเคิล สร้างเส้นด้ายใหม่จากเศษผ้าและเศษฝ้ายเหลือใช้จากอุตสาหกรรม และเขายังต่อยอดจากเส้นด้าย 5% ของโรงงานมาสร้างโปรดักต์ใหม่เป็นแบรนด์ Super Cat ม็อบไม้ถูพื้น ที่วางจำหน่ายอยู่ในร้านค้าทั่วไป แต่ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ การต่อยอดธุรกิจมาโรงงานปั่นด้ายรีไซเคิล

 

ธุรกิจจะก้าวไกล ต้อง “โฟกัส”

 

“พอผมเข้ามาดูแล เราไปดูตลาดต่างประเทศมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนนี้ตลาดสิ่งทอมันดาวน์ เราเห็นว่า โรงงานเรามีจุดแข็ง คือ การทำรีไซเคิลมา 30-40 ปี เราเลยมาเจาะตลาดแฟชั่น เอาเศษผ้า เศษด้าย มาสร้างเป็นของที่มีมูลค่ามากขึ้น สร้างเป็นแบรนด์ ซึ่งลูกค้าที่ซื้อของจากเรา เขาจะได้วัตถุดิบที่เป็นรีไซเคิล 100%”

“คุณวัธ” เล่าว่า แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นเสื้อผ้าต่างประเทศ มีโรงงานอยู่ในเมียนมา ลาว กัมพูชา พวกนี้จะไม่ยอมให้เศษผ้าของเขาถูกรีไซเคิล หรือมีเสื้อผ้าที่ผลิตแล้วไม่ได้มาตรฐานหลุดออกไปข้างนอก เขาจะเอาสิ่งเหล่านี้ไปทำลาย แต่ตอนนี้มีเทรนด์เรื่องความยั่งยืน เศรษฐกิจหมุนเวียน เขาเลยต้องการส่งของพวกนี้มาทำใหม่ และเอสซี แกรนด์ เป็นโรงงานที่ครบวงจรด้านนี้ในไทย หากเขาซื้อวัตถุดิบจากเอสซี แกรนด์ นั่นหมายความว่า มันคือวัตถุดิบที่เป็นรีไซเคิล 100% และได้รับการรับรองมาตรฐานระบบ ERP (Enterprise Resource Planning)

 

ขณะนี้ เขาเริ่มดิวกับพาร์ตเนอร์ไว้แล้วเกือบ 10 ราย อาทิ Khaki Bros, SELVEDGEWORK และจะใช้วิธีการทำตลาดด้วยการเล่าเรื่อง เช่น เสื้อตัวนี้มาจากเสื้อยืดเก่า 4 ตัว ขวดพลาสติก 4 ขวด ขายได้ 800 บาท...เแม้แบรนด์เอสซี แกรนด์ จะไม่ใช่โปรดักต์ที่ขายตรงถึงผู้ใช้ (end user) แต่เขามองตัวเองเหมือนเป็นชิปที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ หากชิ้นส่วนที่อยู่ในสินค้าชิ้นนั้นมีคุณภาพ ได้มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ก็ย่อมทำให้สินค้าชิ้นนั้น เป็นสินค้าที่ดีมีมาตรฐานไปด้วย โดยคาดว่าจะออกผลิตภัณฑ์จากเอสซี แกรนด์ ให้เป็นที่รู้จักในตลาดประมาณกลางปี 2564

 

ธุรกิจจะก้าวไกล ต้อง “โฟกัส”

 

“พอเรามีประสบการณ์มากขึ้น เรารู้ว่าอะไรควรทำก่อนทำหลัง ดูว่าทำแล้วได้ภาพรวมก่อน ถ้าเราจะสร้างแบรนด์ตัวเอง เราจะให้ตัวแทนเราไปสร้างโดยคนอื่นไม่รู้...อนาคตอาจจะสร้างแบรนด์ เพราะมันดี ถ้าเรามีผ้าสต๊อกเหลือ เราก็เอามาสร้างแบรนด์ของเราได้ โดยสิ่งที่เราทำ เราจะอยู่ในทุกจุดของสิ่งทอ”

ธุรกิจจะก้าวไกล ต้อง “โฟกัส”

เป้าหมายของผู้ชายคนนี้ คือ ภายใน 3 ปี ทุกเส้นด้ายของเอสซี แกรนด์ จะต้องมี environmental impact ทุกผลิตภัณฑ์ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและหากพูดถึงผลิตภัณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม ตลาดในเซาธ์อีสต์เอเชีย ต้องคิดถึง “เอสซี แกรนด์”

 

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 28 ฉบับที่ 3,568 วันที่ 23 - 25 เมษายน พ.ศ. 2563

ธุรกิจจะก้าวไกล ต้อง “โฟกัส”