ไทยท็อป1จีนจ่อเที่ยวหลังโควิดส.ค.นี้

20 เม.ย. 2563 | 09:32 น.

ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ ผนึก เดลิเวอร์ริ่ง เอเชีย เผยผลสำรวจนักท่องเที่ยวจีน พบว่าไทยยังเป็นอันดับ 1 เมืองท่องเที่ยวที่คนจีนอยากเดินทางมาเที่ยวมากที่สุดหลังโควิด ซึ่งเป็นการเดินทางในลักษณะเอฟไอทีมากกว่ากรุ๊ปทัวร์ โดยคาดว่าจะเดินทางตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ แนะธุรกิจท่องเที่ยวรับมือพฤติกรรมเปลี่ยน

      การสำรวจความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวของชาวจีนปี 2020 (China Thailand Travel Sentiment Survey 2020) ได้ดำเนินการในช่วงกลางเดือนเมษายน 2563 โดย ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ (C9 Hotelworks) และเดลิเวอร์ริ่ง เอเชีย คอมมิวนิเคชั่นส์ (Delivering Asia Communications) มุ่งเน้นที่ปัจจัยความต้องการที่สำคัญในการฟื้นตัวเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งพบผลเชิงบวกที่แข็งแกร่งจากการสำรวจ ผู้บริโภคชาวจีนต้องการมาเที่ยวประเทศไทยถึง 71% ซึ่งเป็นอันดับ ที่คนจีนอยากเดินทางมาเที่ยวหลังโควิด
       ทั้ง
ผลสำรวจยังพบว่า 53% ของผู้ตอบแบบสอบถามซึ่งเป็นชาวจีนในเมืองชั้นนำ ต้องการเดินทางไปต่างประเทศภายในปีนี้ โดยเดือนที่มีการตั้งเป้าจะเดินทางมากที่สุด ได้แก่ สิงหาคม ตุลาคม และธันวาคม

ไทยท็อป1จีนจ่อเที่ยวหลังโควิดส.ค.นี้

   อีกทั้งยังพบว่าพฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวจีนแบบดั้งเดิมในตลาดมวลชน (mass market) มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ กล่าวคือ 83% ของนักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มจะเลือกเดินทางแบบอิสระ (independent travel) หรือเอฟไอที มากกว่าการท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์

       สิ่งนี้นำไปสู่การพยากรณ์ของอุตสาหกรรมโรงแรมและการท่องเที่ยวต่อช่องทางการซื้อที่ตอบโจทย์นักเดินทางชาวจีนสู่ประเทศไทย ทั้งนี้ 5 อันดับแรก ได้แก่ CTrip (61%), Fliggy (16%), เว็บไซต์โรงแรม (9%), Booking.com (5%) และ WeChat (5%)

ไทยท็อป1จีนจ่อเที่ยวหลังโควิดส.ค.นี้

       ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญอีกประการหนึ่งของผลการสำรวจคือจุดหมายปลายทางในประเทศไทยที่เป็นที่นิยมสำหรับการพักผ่อนมากที่สุดของผู้ตอบแบบสอบถามชาวจีน ได้แก่ กรุงเทพ, ภูเก็ต, เชียงใหม่, เกาะสมุย และพัทยา โดยกว่า 75% เลือกเดินทางมายัง 3 อันดับแรก

        นายบิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการซีไนน์โฮเทลเวิร์คส์ ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเส้นทางการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยว่าเราคาดว่าการฟื้นตัวของไทยในตอนแรกจะเป็นการเดินทางภายในประเทศและจะเคลื่อนเข้าสู่การท่องเที่ยวข้ามภูมิภาคอย่างรวดเร็วด้วยภาคธุรกิจในต่างประเทศของจีนที่พร้อมและเต็มใจที่จะมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ดังที่แสดงในผลการสำรวจ

บิล บาร์เน็ต

     จากมุมมองที่คาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 ในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2563 การเดินทางทางอากาศเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับภาคการท่องเที่ยว ตัวบ่งชี้กิจกรรมของสายการบินจาก Flightradar24 สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สายการบินระดับภูมิภาคและสายการบินต้นทุนต่ำ (LCC) ของจีนได้กลับมาให้บริการแล้ว

ไทยท็อป1จีนจ่อเที่ยวหลังโควิดส.ค.นี้

 

       ในขณะที่ยังมีปัจจัยความหวาดกลัวทั่วโลกสำหรับนักเดินทางหลังจากการระบาดของโรคไวรัส จึงคาดว่าจะทำให้เกิดการเดินทางแค่ระยะสั้นในช่วงแรก เนื่องจากความกังวลเรื่องสุขภาพในการเดินทางโดยเครื่องบิน ทั้งนี้ ประเทศไทยมีสายการบินตรงจากจีน รวมถึงมีเครือข่ายสายการบินที่ได้รับการจัดสรรและอนุญาตเส้นทางการบินจากจีนมายังไทยมากมาย

        ดัชนีชี้นำในการฟื้นตัวของการเดินทางในเอเชียอีกประการหนึ่งคือ การแข็งค่าของเงินหยวนของจีน (RMB) เทียบกับเงินบาทไทย หลังจากที่ลดลงถึงระดับต่ำสุดในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและสงครามการค้า ปัจจุบันสกุลเงินได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2563 ซึ่งเท่ากับมูลค่าที่เพิ่มขึ้น มีผลต่อนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะมายังประเทศไทย

        นาย เดวิด จอห์นสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เดลิเวอร์ริ่ง เอเชีย คอมมิวนิเคชั่นส์ กล่าวถึงผลการสำรวจในข้อมูลด้านประชากรของนักเดินทางจากจีนที่กำลังเปลี่ยนแปลงว่า นักเดินทางชาวจีนหน้าใหม่มีอายุน้อยลง มีอิสระมากขึ้น และได้รับอิทธิพลทางดิจิทัลมากกว่าที่เคยเป็นมา โควิด-19 มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อความตั้งใจของผู้บริโภคกลุ่มนี้ในการเดินทาง ซึ่งพวกเขามีความปรารถนาอย่างมากที่จะออกมาท่องเที่ยว ซึ่งเราจะต้องใช้กลยุทธ์ดิจิทัลใหม่เพื่อเข้าถึงพวกเขานั่นเอง

เดวิด จอห์นสัน

         อย่างไรก็ตามวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 (Covid-19) สร้างผลกระทบต่อตลาดการท่องเที่ยวไทยมากที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย จากเมื่อปีที่ผ่านมามีผู้เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศถึง 39.8 ล้านคน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจีนกว่า 11 ล้านคน โดยภาคการท่องเที่ยว โรงแรม และการเดินทางของไทย มีส่วนขยายอยู่ระหว่าง 12 - 15% ของ GDP และเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้