ศบค.ชื่นชม29จ.ไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม

18 เม.ย. 2563 | 11:16 น.

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.
เผยว่า  สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 33 ราย หายป่วยแล้ว 1,787 ราย  ผู้ป่วยสะสม 2,733 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่899 ราย  และเสียชีวิตวันนี้ 0 ราย  ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 47 ราย  โดยกลุ่มอายุที่พบสูงสุด 20-29 ปี จำนวน 650 คนและที่ผ่านมาช่วงอายุ 30-39 ปี  ซึ่ง 2 ช่วงอายุสลับกันขึ้น โดยขอให้คนในครอบครัวช่วยกันดูแลคนกลุ่มนี้ให้ดี เพราะเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อสูงสุด และเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิต  

สถานการณ์ภาพรวมยังพบว่ากรุงเทพฯ และนนทบุรี ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เพราะสถาบันบำราศนราดูรซึ่งเป็นศูนย์กลางการรักษา
ที่ต้องรับผู้ป่วยอยู่ในจ.นนทบุรี   ทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในจังหวัดมีตัวเลขสูงขึ้น จะว่าเขาอย่างเดียวไม่ได้ ต้องไม่ว่ากัน เพราะตัว
เลขดังกล่าวเป็นสถิติที่เอาไว้สอนใจ เตือนใจว่าเราจะหาทางแก้ไขอย่างไรต่อไป  

ศบค.ชื่นชม29จ.ไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม ในส่วน 29 จังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มใน 14 วันที่ผ่านมา คือ เชียงราย  เพชรบุรี  เพชรบูรณ์  แพร่  แม่ฮ่องสอน
กาญจนบุรี  กาฬสินธุ์  จันทบุรี  นครนายก  บุรีรัมย์  มหาสารคาม  มุกดาหาร  ยโสธร  ร้อยเอ็ด  ราชบุรี  ลพบุรี  ลำพูน  ศรีสะเกษ
สมุทรสงคราม  สระบุรี  สุโขทัย  หนองคาย  หนองบัวลำภู  อำนาจเจริญ  อุดรธานี  อุตรดิตถ์  อุทัยธานี  ระยอง  และ ตาก
ส่วนจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อน 9 จังหวัดยังคงไม่พบผู้ติดเชื้อเหมือนเดิม  คือ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ
พิจิตร  ระนอง  สิงห์บุรี และ อ่างทอง

 เมื่อวิเคราะห์อัตราการเสียชีวิตของประเทศไทยจำนวน 47 รายตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.-17 เม.ย. ว่าอัตราการป่วยและเสียชีวิตอยู่ที่ 1.7% ถือว่าต่ำกว่าประเทศอื่นๆ แสดงถึงศักยภาพทางการแพทย์สาธารณสุขของเรา ทั้งนี้ กลุ่มอายุที่เสียชีวิตมากที่สุด คือ อายุ 50-59 ปี จำนวน 14 รายจากผู้ป่วย 367 รายนับเป็น 29.8 % ถือว่าหนักที่สุด สัญชาติไทย 87 % % ต่างชาติ13 %  ขณะที่โรคประจำตัวที่พบร่วมในผู้เสียชีวิตนั้น อันดับ 1 คือโรคเบาหวาน  รองลงมา โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคหัวใจ ซึ่งคนที่ไม่มีโรคประจำตัวก็เสียชีวิตได้ จึงประมาทไม่ได้  จะบอกว่าแข็งแรงดีก็เสียชีวิตได้ แม้จะอายุน้อย 

ศบค.ชื่นชม29จ.ไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ในส่วนสถานการณ์ต่างประเทศ ขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อ 2,250,751 ราย เสียชีวิต 154,261 ราย โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งอยู่ๆมีผู้ติดเชื้อเพิ่มภายในวันเดียว 1,290 ราย ทั้งที่ประเทศเขากำลังจะเปิดเมือง จึงเป็นเรื่องเตือนใจถึงมาตรการ
ของไทยที่จะออกต้องดูสถานการณ์โลก  เรื่องนี้ต้องวิเคราะห์ดูสถานการณ์ข่าวสารกันต่อไป อัตราการเสียชีวิตเป็นตัววัดการ
ป้องกันโรคและรักษา เรื่องการเสียชีวิตก็เป็นเรื่องใหญ่ของทุกประเทศในโลกนี้

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับสถิติการรณรงค์ในช่วง 7 วันอันตรายช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งปีนี้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ทำให้ยอดบาดเจ็บทางถนนลดลง โดยปีใน 63 ผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 9,764 ราย ลดลงจากปี 61 ที่มี 28,993 ราย และปี 62 ที่มี 30,212 รายลดลง 67.68 %  ส่วนสถิติผู้เสียชีวิตทางถนน ปี 63 อยู่ที่ 150  ราย ลดลงจากปี 61 ที่มีจำนวน 487  ราย และปี 62 ที่มีจำนวน 517 ราย  ถือว่าลดลงถึง 71% ซึ่งหลายคนบอกว่าอยากให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี แต่คนก็ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้น  

ศบค.ชื่นชม29จ.ไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม

ส่วนผลการปฏิบัติงานของฝ่ายมั่นคงช่วงเคอร์ฟิวคืนวันที่ 17 เม.ย.ต่อเนื่องเช้าวันที่ 18 เม.ย. ออกนอกเคหสถาน 691ราย ลดลงจากเมื่อวาน 129 ราย ชุมนุมมั่วสุม เสี่ยงต่อการติดเชื้อ 113  ราย เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 4 ราย ซึ่งสาเหตุของการมั่วสุมยังคงเป็นการดื่มสุรา เล่นพนัน และยาเสพติด โดยจังหวัดที่มีผู้ฝ่าฝืนมากที่สุด 10 อันดับแรกอันดับ 1 คือ นนทบุรี  กรุงเทพฯ ปทุมธานี สมุทรปราการสงขลา สมุทรสาคร ภูเก็ต กระบี่ พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี  ส่วน 10 จังหวัดที่ไม่มีผู้กระทำผิด คือ ยโสธร หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี แม่ฮ่องสอน อ่างทอง  ฉะเชิงเทรา ตราด สุโขทัย และสมุทรสงคราม