วันที่ 10 ชักเบื่อไก่บกแล้วก็ต้องไปต่อที่ไก่น้ำ_เกรอะนุย ภูมิประเทศฝรั่งเศสมีแหล่งแอ่งน้ำอยู่ทั่วไป ในชื่อแบงส์ : ปลมบิเยร์
เลส์ แบงส์, กร็องดรุปต์ เดอ เเบงส์ เปนแบงส์ที่อุดมไปด้วยกบ_เกรอะนุย หัวค่ำวันนี้ระหว่างกักตัวโควิด ก็ควรได้ด้อมไปแอ่งน้ำ_แบงส์ ส่วนตัวหลังบ้าน แบงส์ชนิดว่า private property ทุบกบใหญ่ชายน้ำมาสักสามตัว
ดูให้ดีว่า กบ เด้อ มิใช่คางคก!
ตายสนิทดีแล้วก็โยนเข้ากองไฟถ่านคุๆ พอผิวไหม้ คีบออกมา แล้วขัดผิวเคยลื่นมันนั้นเสียให้สะอาดด้วยใยขัดเขียวๆใหม่ๆ เครื่องในเอาทิ้งบ่อไปให้ปลากิน ตัวกบเราถลกหนังออก สับเอามาแต่ส่วนขาไล่ขึ้นไปถึงก้น อย่างที่เขาเรียกว่า “ก้นกบ”
พวกฝรั่งเศสนิยมกินกบส่วนขา ตัวนึงกินแค่สองขา ค่าที่ว่ามันอร่อยอยู่เเค่ตรงนั้น เอาเคล้าเกลือและพริกไทยเสียให้ดี เกลือกแป้งเสียหน่อยซับชื้น
เอากระทะหนาๆละเลยเนยสดให้เดือดดี จึงเทชิ้นก้นกบขากบเหล่านั้นลงทอดในน้ำมันเนย ไฟแรงพอผิวกรอบก็ใช้ได้ กบสุกเร็ว จังหวะนี้ พรมไวน์ขาวใส่เข้าหน่อยพอเนื้อตึง แล้วเอากระเทียมสับสักกำมือเคล้าเกลือป่นใส่ลงไป เนยโดนไฟใส่กระเทียมอันนี้จะหอมหวล ผักพาสลีย์สับๆละเอียดเอาโปรยเข้าตักขึ้นแล้ว
เสิร์ฟพร้อมมะนาวฝาน
แหม่_มันช่างให้รสอร่อยรสมัน อย่างไก่เนื้อละเอียดปนด้วยปลาสดเนื้อลิ่ม กินอย่างคลาสสิกก็ต้องกินด้วยมือ แทะเอาเนื้อชุ่มกระเทียมแล้วดูดกระดูก_จ้วบตามไปด้วย _จ๊วบ
ถ้าว่าอยากจะแสดงความสำนึกในฝีมือคนปรุงก็อนุญาตให้ใช้ขนมปังชุบปาดซอสเนยไวน์ขาวที่เหลือค้างจานไว้ กำซาบล้างคอเสียให้ถูกธรรมเนียมด้วยไวน์ขาวรสฝาด ชาดอนเน่ย์ หรือไม่ก็อมชื่นอย่างชาบรีย์ แต่ไม่ค่อยเหมาะกับเฌอนินผู้สุกงอมหอมกลิ่น ในวันที่ชีวีเฉาชา
อนึ่งกระดูกกบฝรั่งแก่เขาไม่ทิ้ง เก็บไปทำเครื่องราง โดยเฉพาะพวกจ้อกกี้ขี่ม้า เจ้าของค่ายหรือฝ่ายการพนัน เชื่อกันนมนานว่ามีอำนาจรบกวนม้าได้ พกกันไว้คนละอันสองอัน
หายหิวแล้ว หยิบชิ้นส่วนตัวกบนั่นปิ้งไฟต่อทั้งหนังพอแห้ง หัวเอาทิ้งไป ตัวสับทั้งกระดูกทั้งหนังให้ละเอียดยิบดี ตั้งกระทะไฟแรงๆ แล้วเอาคั่วลงในน้ำมันพักไว้ข้างนึง พริกกระเหรี่ยงเล็กแดงๆเขียวๆ เอาสับลงทั้งก้านทั้งยอด เจือกระเทียมสับ จากนั้นเคล้ากับกบที่ยักไว้เข้ากันดีแล้วแหวกออกให้เห็นพื้นกระทะ โขยกน้ำปลาดีลงไปให้ฉ่าไฟ จึงตลบกลับมาซับเค็ม ถ้าแห้งไปก็หยิบบรั่นดีถูกๆหยอดลงสักกะเป๊ก
กระพือไฟให้โหม กะเพราป่ามาทั้งใบทั้งดอกสักสามขยุ้มล้างน้ำแล้วโยนลงไป ใส่ใบมะกรูดอ่อนๆฉีกเข้า
เขย่ากระทะ เคาะตะหลิว โป๊กเป๊ก สองที เปนอันสำเร็จ ยกลงมากินกับบรั่นดีก้นขวดฉีดโซดาเย็นๆเเก้เศร้า เคล้าน้ำตาอันมาจากความเผ็ดหอมฉุนของพริกกระเหรี่ยงแลกระเพราแดงบ้านป่านั่น!
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 27 ฉบับที่ 3,567 วันที่ 19 - 22 เมษายน พ.ศ. 2563