สาระชี้พิษไวรัส เร่งผลักองค์กร Transform

18 เม.ย. 2563 | 23:21 น.

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา(โควิด-19) นำมาทั้งวิกฤติและโอกาส เพราะแม้จะเห็นหลายธุรกิจประสบปัญหาแต่ก็มีอีกหลายธุรกิจที่มียอดขายเติบโตเช่นกันอย่างบริการ delivery และ e-Commerce จากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม การทำงานที่บ้านเพื่อลดการเดินทาง และอีกหนึ่งธุรกิจที่คึกคักขึ้นคือ ธุรกิจประกันชีวิตจากการออกโครงการประกันโควิด

นายสาระ ลํ่าซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า  ความท้าทายของธุรกิจประกัน ชีวิตมาจากปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสังคม เศรษฐกิจ โรคระบาด หรืออะไรก็ตามที่ไม่สามารถควบคุมได้ เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนต้องเจอและหาวิธีรับมือ ถ้าองค์กรไหนปรับตัวและเตรียมพร้อมรับมือได้ทัน ก็จะเป็นผู้รอดชีวิตที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง ซึ่งในสถานการณ์นี้ก็เช่นเดียวกัน ตั้งแต่ต้นปี มีทั้งเรื่องสงคราม ภัยแล้ง และโรคระบาด

“ผมมองว่ากับสถานการณ์โควิด-19 ก็เป็นความท้าทายที่ทำให้องค์กรสามารถปรับเปลี่ยนได้เร็วขึ้น วิธีการทำงาน หรือจะปรับเปลี่ยนอะไรใหม่ๆ  Transform ได้รวดเร็วขึ้น เอาเทคโนโลยีและระบบดิจิทัลที่เตรียมไว้มาลองใช้ได้จริง ทั้งในการทำงานและการให้บริการกับผู้เอาประกันของเรา และต้องยอมรับว่า มันจะไม่สมบูรณ์แบบแน่นอน ก็ต้องปรับไปกับสถานการณ์ เพราะไม่งั้นก็ไม่มีวันรู้ว่าอะไรบกพร่อง อะไรคือจุดต้องแก้ไข”

ถ้าพูดถึงประกันชีวิตเป็นความคุ้มครองระยะยาว เราต้องดูความแข็งแกร่งด้านการเงิน บริษัทต้องนำเงินไปลงทุนให้คุ้มค่า ซึ่งบริษัทประกันได้ปรับตัวมาสักพักแล้ว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายแล้วเกิดความยั่งยืนขององค์กร บริษัทต้องอยู่ได้ เพราะเราให้ความคุ้มครองลูกค้าระยะยาว แบบประกันที่มีความละเอียดอ่อนกับอัตราดอกเบี้ยก็ลดลงไป หรือบางกรมธรรม์ก็ยกเลิกไป และหันมานำเสนอประกันในเรื่องของความคุ้มครองและประกัน สุขภาพมากขึ้น เพราะปัจจุบันประชาชนให้ความสำคัญประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงมากขึ้น มีส่วนควบประกันสุขภาพที่แบบเฉพาะตัวให้กับผู้เอาประกัน

 

สาระ ลํ่าซำ

ขณะที่ในมุมมองของลูกค้าผู้เอาประกันนั้น ช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บริษัทจึงมีแนวทางช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยของบริษัทตามมาตรการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แล้วแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดก็ยังไม่คลี่คลาย บริษัทจึงได้ขยายเวลาให้ความช่วยเหลือให้กับผู้เอาประกันภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ทั้งนี้มาตรการที่ดำเนินการคือ กรณีที่กรมธรรม์ประกันชีวิตครบกำหนดเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัยระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม-30 มิถุนายน 2563 จะขยายเวลาผ่อนผันออกไปอีก 60 วัน นับแต่วันครบระยะเวลาผ่อนผันเดิม

กรณีที่กรมธรรม์ประกันชีวิตขาดอายุหรือเปลี่ยนเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตใช้เงินสำเร็จอัตโนมัติ หรือแปลงเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบขยายเวลาอัตโนมัติ ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม-30 มิถุนายน 2563 หากมีการขอต่ออายุกรมธรรม์ประกันชีวิต(Reinstatement) หรือขอกลับคืนสู่สถานะเดิมของกรมธรรม์ประกันชีวิต ภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่กรมธรรม์ประกันชีวิตขาดอายุ หรือเปลี่ยนเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตใช้เงินสำเร็จอัตโนมัติ หรือแปลงเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบขยายเวลาอัตโนมัติ บริษัทจะยกเว้นดอกเบี้ยในระหว่างนั้น

ส่วนกรณีกรมธรรม์ประกันชีวิตมีการนำมูลค่าเวนคืนมาชำระเบี้ยประกันภัยโดยอัตโนมัติ(Automatic Premium Loan) ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม-30 มิถุนายน 2563 จะยกเว้นดอกเบี้ย หากชำระคืนเงินกู้ชำระเบี้ยประกันภัยอัตโนมัติเต็มจำนวน ภายใน 6 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระ

“การพัฒนาด้านเทคโนโลยีและระบบดิจิทัลของเราพร้อมในการให้บริการลูกค้า และนำใช้ให้บริการมาสักพักแล้ว ทำให้ขณะนี้สามารถใช้ได้ทันต่อเหตุการณ์ และยังเปิดช่องทางอำนวยความสะดวกลูกค้า พร้อมกับยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของลูกค้าจากการเดินทางเพื่อมาทำธุรกรรม โดยมีช่องทางการชำระเบี้ยประกันภัยผ่านช่องทางที่หลากหลายทั้งแอพพลิเคชันบนมือถือ และ Internet Banking”

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,567 วันที่ 19-22 เมษายน 2563