ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 558.99 จุด หรือ +2.39% ยืนที่ 23,949.76 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่ม 84.43 จุด หรือ +3.06% ปิดที่ 2,846.06 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 323.32 จุด หรือ +3.95% ปิดที่ 8,515.74 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยนายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กเปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วรัฐนิวยอร์กลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด โดยตั้งข้อสังเกตว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ชะลอตัวลงหลังจากรัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์
นอกจากนี้ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนหลังจากนายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์อาจจะประกาศให้มีการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งในช่วง 1-2 วันข้างหน้านี้ หลังจากวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขเริ่มผ่อนคลายลง
ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะประสบกับวิกฤตการเงินที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในช่วงทศวรรษ 1930 โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
โดยไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 3% ในปีนี้ ซึ่งสวนทางการคาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่ระบุว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.3% ในปีนี้แต่ก็คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 5.8% ในปีหน้า จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัว 3.4%