บีโอไอชี้อีอีซียังเป็นพื้นที่เป้าหมายนักลงทุน

13 เม.ย. 2563 | 09:50 น.

โอไอเผยยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนช่วงไตรมาสแรกปี 2563 รวม 378 โครงการ มูลค่า 71,380 ล้านบาท ต่างชาติลงทุนไทย 27,425 ล้านบาท นำโดยญี่ปุ่น จีน และฮ่องกง ยอดลงทุนในอีอีซี 47,580 ล้านบาท

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บอร์ดบีโอไอ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า บีโอไอได้รายงานภาวะการส่งเสริมการลงทุนช่วง 3 เดือนของปี 2563 (มกราคม-มีนาคม) โดยมียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 378 โครงการ เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 368 โครงการ ขณะที่มีมูลค่าการลงทุนรวม 71,380 ล้านบาท ลดลง 44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่า 128,460 ล้านบาท เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดกลางและขนาดเล็ก  โดยมูลค่าเงินลงทุนสูงสุดอยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 10,620 ล้านบาท ตามด้วยอุตสาหกรรมเกษตรและแปรรูปอาหาร มูลค่า 5,690 ล้านบาท และยานยนต์และชิ้นส่วน มูลค่า 2,400 ล้านบาท

บีโอไอชี้อีอีซียังเป็นพื้นที่เป้าหมายนักลงทุน

สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่าการขอรับส่งเสริมรวม 27,425 ล้านบาท โดยญี่ปุ่นมีการลงทุนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 โดยมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 7,402 ล้านบาท อันดับ 2 คือ จีน มีมูลค่าเงินลงทุน 6,510 ล้านบาท และอันดับ 3 ฮ่องกง มีมูลค่าเงินลงทุน 3,458 ล้านบาท  โดยยอดการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่ารวม 47,580 ล้านบาท คิดเป็น 67% ของมูลค่าการขอรับส่งเสริมทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าอีอีซียังเป็นพื้นที่เป้าหมายของนักลงทุนส่วนใหญ่

บีโอไอชี้อีอีซียังเป็นพื้นที่เป้าหมายนักลงทุน

อย่างไรก็ดี  ในส่วนของเป้าหมายการส่งเสริมการลงทุนตลอดทั้งปีนี้นั้น  คงจะเป็นการยากที่จะกำหนดอย่างชัดเจน  เนื่องจากสถานการณ์สามารถมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ  แต่บีโอไอเองก็พยายามทำอย่างดีที่สุด  ปัจจุบันก็ยังให้บริการนักลงทุน  รวมถึงติดต่อ  และชักจูงให้บริษัทเข้ามาลงทุนตามปกติ  เพราะฉะนั้น  คงจะต้องรอดูสถานการณ์อีกสักระยะหนึ่งจึงจะกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจนได้