สื่อต่างประเทศ รายงานว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ นางคริสเตียนา กอร์เกียว่า กรรมการผู้จัดการใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ออกมาเตือน ถึงความวิตกกังวลถึงวิกฤติเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาดใหญ่ทั่วโลกว่าครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกวิกฤติทีผ่านมา เพราะจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก จนเข้าสู่ภาวะถดถอยเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่เคยเกิดวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) ที่เริ่มเกิดในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป เมื่อปี ค.ศ.1929 หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งหรือ เมื่อ 91 ปีที่ผ่านมา และยังขยายวงไปยังนานาประเทศทั่วโลก
กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอเอ็มเอฟ ยังกล่าวถึงวิกฤติที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาโควิด-19 ว่าได้ก่อให้เกิดการหยุดชะงักทางสังคมและเศรษฐกิจในนานาประเทศทั่วโลก ในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเท่าที่จำความได้ นอกจากผู้คนจำนวนมากต้อง ติดเชื้อสูญเสียชีวิต และมาตรการล็อกดาวน์ที่จำเป็นต่อการต่อสู้กับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดได้ส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลกเป็นพันๆ ล้านคน พร้อมกับเรียกร้องให้ชาติสมาชิกไอเอ็มเอฟ 189 ประเทศที่จะมาร่วมประชุมสุดยอดในสัปดาห์นี้ ควรดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศตนเองอย่างรวดเร็วและให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี รัฐบาลสหรัฐฯ ได้แจ้งจำนวนคนว่างงานที่มายื่นขอรับผลประโยชน์จากทางการ ช่วงหนึ่งสัปดาห์จนถึงวันที่ 4 เมษายน มีจำนวนกว่า 6.6 ล้านคน ทำให้ยอดสะสมของผู้คนที่มาแจ้งตกงานกับทางการสหรัฐฯ สูงถึง 16.8 ล้านคนในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา หรือโดยเฉลี่ย มีคนตกงาน 1 คน ใน 10 คน