โป๊ะแตก“สาวประเภทสอง”โพสต์รับ5พัน“เศษเงินหลังตู้เย็น”

09 เม.ย. 2563 | 10:03 น.

สาวประเภทสองเจ้าของร้านเสื้อผ้ากลางเมืองป่าตองเจ้าของวลี “แค่เศษเงินหลังตู้เย็น” เข้าพบตำรวจป่าตองแล้ว รับโพสต์ภาพ ข้อความจริง เหตุกดดันที่เพื่อนซึ่งลงทะเบียนหลายคนยังไม่ได้รับเงิน

จากกรณีหญิงสาวรายหนึ่ง ใช้เฟสบุ๊ก ชื่อ NaNa KochaPorn ได้โพสต์ข้อความลงหน้าไทม์ไลน์ส่วนตัว ว่า “5 พันเข้าบัญชีแล้วค่ะ ก็แค่เศษเงินหลังตู้เย็น” จนทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงการได้รับเงินดังกล่าว

มีรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 เมษายน 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง ได้ลงพื้นที่ติดตามตัวผู้โพสต์ (NaNa KochaPorn) ดังกล่าวแต่ไม่พบตัว จึงได้แจ้งกับบุคคลที่รู้จักให้ผู้โพสต์ มาพบเจ้าหน้าที่ที่ สภ.ป่าตอง และได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจภายหลัง เพื่อให้ปากคำ โดยมี พ.ต.อ.อกนิษฐ ด่านพิทักษ์ศาสน์ ผกก.สภ.ป่าตอง ร่วมสอบปากคำ

เบื้องต้นทราบชื่อผู้โพสต์รายดังกล่าว คือนายกชพร(ขอสงนนามสกุล) อายุ 26 ปี เป็นสาวประเภทสอง ชาว ต.หนองผือ อ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด และเป็นเจ้าของร้านขายเสื้อผ้า ชื่อนานาสโตร์ดังกล่าว

สอบถามนายกชพร ให้การว่า อาศัยอยู่ที่ภูเก็ตมาเป็นเวลา 2 ปีเศษ ก่อนหน้านี้เป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่บาร์แห่งหนึ่งในซอยบางลา ก่อนจะมาเปิดร้านขายเสื้อผ้าได้ประมาณ 3 เดือน (ประมาณเดือนมกราคม ) และยอมรับว่า ได้รับเงินจำนวน 5,000 บาท จากโครงการเราไม่ทิ้งกันจริง และมีการโพสต์ข้อความตามที่ปรากฏจริง เนื่องจากตนและเพื่อนๆ ได้ลงทะเบียนเข้าโครงการ

แต่จากการสอบถามปรากฏว่า มีตนได้เงินเพียงคนเดียว ส่วนเพื่อนๆ ไม่ได้เงิน และมีการมาสอบถามว่าลงอย่างไรถึงได้ ทั้งที่เป็นเจ้าของกิจการ ทำให้รู้สึกกดดัน จึงโพสต์ข้อความดังกล่าวไปโดยไม่ยั้งคิดก่อนจะเข้านอน แต่ปรากฏว่าเกิดเป็นประเด็นดังกล่าวขึ้นมา

ทั้งนี้ยืนยันว่า แม้ตัวเองจะเป็นเจ้าของธุรกิจแต่ได้รับผลกระทบจากการหยุดกิจการเช่นกัน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเช่าร้าน เดือนละ 20,000 บาท (ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ) ค่าเช่าบ้านเดือนละ 7,000 บาท ค่างวดรถ 12,500 บาท ค่าอุปโภคของน้องๆ และเด็กอ่อนอีก 1 คน วันละ 1,500 บาท และค่ามัดจำเปิดร้านเสริมสวยใหม่อีก 26,000 บาท โดยวางเงินมัดจำไปแล้ว 5,000 บาท และตนก็ไม่มีประกันสังคม เนื่องจากเป็นเจ้าของกิจการ

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ฯ ได้บันทึกถ้อยคำไว้เป็นหลักฐาน โดยยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า เข้าข่ายความผิดใด รวมถึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า จะมีการดำเนินคดีหรือไม่อย่างไรต่อไป