ตร.คุมสาวโพสต์“เศษเงินหลังตู้เย็น”เค้นสอบที่ภูเก็ตโทษคุก5ปี

09 เม.ย. 2563 | 09:37 น.

ตำรวจคุมตัวสาวโพสต์ข้อความเย้ยเงินเยียวยาโควิด 5,000 บาท สอบที่สภ.ภูเก็ต มุ่งปมเจตนา-จุดประสงค์การโพสต์ ก่อนประสานกระทรวงคลังสอบคุณสมบัติการรับเงิน เผยหากพบข้อมูลโพสต์เป็นเท็จ เตรียมดำเนินคดีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท

กรณีสาวรายหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า “เงินเยียวยา 5,000 บาทเข้าบัญชีแล้ว แค่เศษเงินหลังตู้เย็น” และกระทรวงการคลังได้แจ้งความให้ดำเนินคดีแล้วนั้น

วันนี้ (9 เม.ย.63) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบก.ปอท. ) ฐานะโฆษก บก.ปอท. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้สั่งการให้ตำรวจบก.ปอท. กับตำรวจกองปราบ ทำงานร่วมกัน โดยทาง ปอท.ได้ตรวจสอบและพิสูจน์ว่าผู้ที่โพสต์เป็นบุคคลใด ซึ่งก็ทราบแล้วว่าเป็นใคร จึงได้ประสานไปยังตำรวจกองปราบ ในการจัดเจ้าหน้าที่ไปเชิญตัวสุภาพสตรีที่เป็นผู้โพสต์ข้อความ นำตัวไปพบพนักงานสอบสวนที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อสอบถามถึงเจตนาและจุดประสงค์ในการโพสต์ข้อความดังกล่าว 


 

ส่วนที่มีการโพสต์ระบุว่า เป็นเศษเงินหลังตู้เย็น ก็จะต้องพิจารณาว่ามีใครเสียหายหรือไม่ หรือจะเข้าข่ายความผิดใดหรือไม่ และหากมีการนำเข้าข้อมูลเพื่อหวังผลที่จะได้เงินจากกระทรวงการคลังแล้วข้อมูลที่นำเข้านั้นเกิดเป็นเท็จหรือบิดเบือน อาจจะถูกดำเนินคดีตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14(1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่ เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะต้องตรวจสอบอีกครั้งโดยจะต้องประสานกับกระทรวงการคลังว่าคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับเงินมีอะไรบ้าง แล้วบุคคลดังกล่าวได้กรอกข้อมูลตรงความเป็นจริงหรือไม่ หรือมีการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จจะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียด


 

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ช่วงนี้เนื่องจากประชาชนหยุดอยู่บ้านเพื่อชาติ ทำให้มีเวลาเข้าสู่สังคมออนไลน์มากยิ่งขึ้น การโพสต์หรือการดูข้อมูลอะไรต่างๆ จะต้องใช้วิจารณญาณเป็นพิเศษ โดยเฉพาะข่าวปลอม หากได้รับข้อมูลมาควรตรวจเช็คให้ชัวร์ก่อนแชร์ เชื่อว่าการโพสต์ลักษณะการสร้างกระแสหรือเรียกแขกแบบนี้อาจจะต้องมีอีก ซึ่งไม่ได้เกิดผลดีอะไรเลย และอาจถูกดำเนินคดีได้

ขณะที่พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.ข่าวกรองยาเสพติด ปส. กล่าวว่า ตำรวจได้ประสานกระทรวงดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) เพื่อทำงานร่วมกับศูนย์ต่อต้านเฟคนิวส์ รวบรวมข้อมูลข่าวสารให้สืบสวนจับกุมผู้ทำข่าวปลอมหลอกลวงประชาชน โดยวันนี้มีรายงานการจับกุมผู้โพสต์เรื่องประกาซเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง มีผู้ต้องหา 3 คนหลัก หากเป็นคนแชร์ทั่วไปที่ไม่มีเจตนาก็จะเรียกมาตักเตือน ขณะเดียวกัน ตำรวจกองปราบปราม และตำรวจกองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) ได้สืบสวนหาตัวหญิงสาวที่โพสต์ว่าเงิน 5,000 บาท ที่เป็นเงินในเยียวยาตามมาตรการผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เป็นเงินหลังตู้เย็น 

ล่าสุดได้เชิญตัวไปสอบปากคำที่ จ.ภูเก็ต แล้ว ก่อนดำเนินการตามกฎหมาย 

ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดสายด่วน 1155 และ 1599 รับแจ้งเหตุ แจ้งเบาะแส หรือได้รับความเดือดร้อนจากการเอาเปรียบการหน้ากากอนามัย หรือเวชภัณฑ์การแพทย์ เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องเดินทางจากภูมิลำเนาเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาแจ้งความ