ททท.ปรับแผนรับโควิด-19 เซตมาตรฐานใหม่รอท่องเที่ยวฟื้น

11 เม.ย. 2563 | 06:35 น.

ททท.ปรับแผนรับวิกฤติโควิด-19 มองข้ามช็อต เซตมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ผุดโครงการตราสัญลักษณ์ SHA สร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยว ทั้งเตรียมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่อีกไม่ตํ่ากว่า 1 พันแห่ง  ส่วนแผนกระตุ้นท่องเที่ยวที่ดีลไว้ก่อนหน้า จะถูกนำกลับมาใช้ หลังไวรัสคลี่คลาย

ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และมาตรการสกัดกั้นการเดินทาง เพื่อลดการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น แม้จะส่งผลให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.)ไม่สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวได้เหมือนปกติ  แต่ททท.ก็ต้องปรับรูปแบบการทำงานใหม่ให้สอดรับกับสถาน การณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา และเตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาของการท่องเที่ยวอีกครั้ง เมื่อไวรัสคลี่คลาย เพื่อให้เดินต่อได้ทันที

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าขณะนี้ททท.จึงต้องมองข้ามช็อต ตามนโยบายซ่อมสร้างท่องเที่ยว โดยโฟกัสเรื่องแผนการเยียวยา และแผนกระตุ้นในช่วงสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ซึ่งททท.อยู่ระหว่างร่วมมือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว อาทิ สมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) สมาคมสวนสนุกและสวนพักผ่อนหย่อนใจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน)หรือทีเส็บ เพื่อผลักดันโครงการ Amazing Thailand Safety & Health Administration (SHA) ซึ่งเป็นบรรทัดฐานสร้างความมั่นใจถึงความปลอดภัยในการใช้บริการ

 

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์

 

โดยธุรกิจที่จะได้รับตราสัญลักษณ์ SHA จากททท. นอกจากในแต่ละธุรกิจจะมีมาตรฐานของตัวเองแล้ว ก็ต้องเพิ่มมาตรฐานการป้องกันโควิด-19 ของกรมอนามัย ที่เพิ่งออกประกาศมาล่าสุดเมื่อวันที่11มีนาคมนี้ เข้าไปอยู่ในลิสต์การมาตรฐานของธุรกิจของตัวเองด้วย ซึ่งแม้ธุรกิจที่ได้รับตราสัญลักษณ์ดังกล่าว จะไม่สามารถการันตีได้ 100%ว่าไม่มีโควิด แต่ก็เป็นเครื่องการันตีว่าธุรกิจเหล่านี้จะมีการป้องกันการแพร่ระบาดเป็นอย่างดี เมื่อปัญหาโควิดคลี่คลายนักท่องเที่ยวก็จะมีความมั่นใจในการใช้บริการ ซึ่งธุรกิจที่ได้รับตราสัญลักษณ์จะได้รับการโปรโมตจากททท.ไปทั่วโลก และเป็นการเซตมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากวิกฤติที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ททท.ยังได้เปิดเพจเจ้าบ้านที่ดี รวมถึงในระหว่างนี้ทางฝ่ายสินค้าท่องเที่ยวก็จะต้องไปเตรียมความพร้อมในการเปิดตัวสินค้าการท่องเที่ยวใหม่อีกไม่ตํ่ากว่า 1 พันแห่ง โดยขณะนี้เป็นการทำงานผ่านทางออนไลน์ ประสานกับแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ ในการสร้างมาตรฐาน ซ่อมสร้าง และสร้างองค์ความรู้ เพื่อททท.จะพัฒนาให้เป็นสินค้าใหม่ด้านการท่องเที่ยวที่พร้อมขายได้ทันที เมื่อสามารถหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสได้

ทั้งนี้สินค้าการท่องเที่ยวใหม่ที่ททท.เตรียมจะเปิดตัว จะเน้นการสร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง เป็นแพ็กเกจ 3 วัน 2 คืน เช่น 1. เส้นทางท่องเที่ยวเสริมพลังชีวิต ใน 10 เส้นทาง อาทิ เส้นทางอาบป่า ที่เขาหลวง นครศรีธรรมราช หรือ นราธิวาส  เส้นทางศรัทธาทัวร์ 2.เส้นทางการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ เส้นทางโลว์คาร์บอน ที่เกาะกูด เส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เป็นต้น

 

รวมถึงประกวดสุดยอดโอท็อปท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน อีกทั้งทางฝ่ายสินค้าฯยังต้องเข้าไปดูแลการฟื้นฟูการท่องเที่ยวในพื้นที่ฝั่งอันดามัน คือ กระบี่ พังงา ภูเก็ต เพื่อประเมินอาการของผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อเยียวยาและช่วยเหลือในสิ่งที่ทำได้  

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวต่อว่านับจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ททท.ได้ปรับวิธีการทำงานตามสถานการณ์ของความรุนแรงของไวรัสที่เกิดขึ้น ซึ่งในช่วงแรกที่การแพร่ระบาดจำกัดอยู่ในเมืองอู่ฮั่น ก็ปรับแผนมองหาตลาดอื่นมาทดแทนตลาดจีน และส่งเสริมไทยเที่ยวไทย ก็ได้รับความร่วมมือจาศูนย์การค้าต่างๆทั้งพารากอน,เซ็นทรัลเวิลด์, เดอะมอลล์ ที่เปิดให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวมาออกบูธขายบริการท่องเที่ยวราคาพิเศษ ซึ่งตอนนั้นผู้ประกอบการก็ขายแพ็กเกจกันได้

อีกทั้งททท.ยังบรรลุความร่วมมือกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กองทุนหมู่บ้าน สมาคมธนาคารไทย เพื่อกระตุ้นให้สมาชิกขององค์กรเหล่านี้เดินทางเที่ยวในประเทศ โดยผู้ประกอบการท่องเที่ยวจะนำเสนอราคาพิเศษให้ หรือแม้แต่กับศูนย์การค้าบิ๊กซี ก็เตรียมจะออกโปรโมชันแจกห้องพักฟรี แต่เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดทวีความรุนแรงไปทั่วโลก ทุกอย่างที่เตรียมไว้ต้องหยุดไป เลื่อนออกไป แต่จะนำกลับมาดำเนินการต่อเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,564 วันที่ 9-11 เมษายน 2563