หุ้นบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ช่วงเช้า ปรับลงมากสุด 1.50 บาท หรือ -3.17% ยืนที่ระดับ 45.25 บาท ก่อนปิดตลาดซื้อขายช่วงเช้าปรับลดลง 0.75 บาท หรือ - 1.59% อยู่ที่ 46.50 ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2,768.94 ล้านบาท
หลังมีรายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบบิ๊กล็อตหุ้น INTUCH บนกระดานปกติ และกระดานต่างประเทศรวม 13 รายการ จำนวน 135.2 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.22% ที่ราคาเฉลี่ย 45.12 บาท มูลค่ารวม 6,100.22 ล้านบาท โดยเป็นการขายหุ้นของ กลุ่มเทมาเสกและเป็นการขายในระดับราคาที่ต่ำกว่าตลาด
นอกจากนี้เมื่อวันที่15 ส.ค. 62 เทมาเสกเคยขายหุ้น INTUCH จำนวน 257.1ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 8.02% ที่ราคาเฉลี่ย 60.75 บาท เป็นเงิน 15,619 ล้านบาท รวม 2 ครั้งขายไปทั้งสิ้น 12.24% มูลค่ารวม 21,719 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันเทมาเสก ถือหุ้นผ่าน THE HONGKONG AND SHANGHAI BANKING CORPORATION LIMITED หรือ HSBC ล่าสุดเหลือเพียง 5.2%
มุมมองของนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เอเซีย พลัส ระบุเพิ่มว่า กลุ่มเทมาเส็ก ถือหุ้นโดยไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารอยู่แล้ว มองว่าการขายหุ้นในครั้งนี้จึงไม่มีผลกระทบใดๆต่อพื้นฐาน ดังนั้นยังคงประมาณการกำไรปี 63 - 64 ไว้ว่าจะทรงตัว 1 - 1.1 หมื่นล้านบาท ราคาหุ้น INTUCH ที่ปรับลงจะยิ่งเพิ่ม Discount จากราคาหุ้นบริษัทลูก
ขณะที่บล.หยวนต้า(ประเทศไทย)ระบุ ภายหลังการทำบิ๊กล็อตครั้งนี้ เทมาเส็กจะถือหุ้น INTUCH เหลือ 166.7 ล้านหุ้น หรือ 5.2% ของทุนชำระแล้ว (อิงรายงานล่าสุดของตลาดหลักทรัพย์ วันที่ 26 ก.พ.63) ซึ่งการลดสัดส่วนถือหุ้นลงที่ราคาต่ำลงเป็น Sentiment เชิงลบระยะสั้น ต่อราคาหุ้น
ด้านบล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่ากลุ่มเทมาเส็กได้เทขายหุ้นของ INTUCH จำนวน 135.2 ล้านหุ้นใน BlockTrade หรือเทียบเท่าหุ้น 4.22% ของทั้งหมดที่ราคาหุ้นละ 45.2 – 46.3 บาท คิดเป็นส่วนลด 2 – 4.5% จากราคาตลาด ทำให้ราคาหุ้นลดลง 2.58% สวนทางตลาดที่เพิ่มขึ้น 6.68%
มี 3 เหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงควรเข้าลงทุนในตอนนี้
ตามรายงานของ Bloomberg เรามองว่า ราคาหุ้นที่ 45 – 46 บาท เป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุน
1. จบปัญหาด้านสภาพคล่อง จากข้อมูลของ SET เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา Temasek เหลือหุ้น 9.42% และหาก Temasek จบ การขายและขายหุ้นต่ำกว่า 4% ให้กับ Singtel จะทำให้สภาพคล่องของ INTUCH ในตลาดเพิ่มขึ้น และทำให้ความเสี่ยงในมุมนี้ลดลง
2. มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต : จากการเทขายหุ้น 2 ครั้งที่ผ่านมา -2.6 ถึง -5% ราคาหุ้นกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 5.4 – 14.4% ในช่วง 30 วันให้หลัง และด้วยการปรับตัวที่แย่กว่าตลาดมากในวันก่อน ทำให้เรามองว่ามีโอกาสรีบาวด์สูง
3. Yield Gap กับ ADVANC เพิ่มขึ้นมาก : ที่ราคาหุ้น 45 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.2% สำหรับปี 2020F ใกล้เคียงกับกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น DIF ที่ 6.7% และ ADVANC ที่ Yield ที่ 3.8%
โดยบล.ทิสโก้แนะให้ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 68.00 บาท