มนุษย์เงินเดือนขอลดค่าไฟ50% ช่วยลดภาระเวิร์กฟรอมโฮม

11 เม.ย. 2563 | 03:50 น.

มนุษย์เงินเดือนประสานเสียงร้องขอ กกพ. ทบทวนลดค่าไฟฟ้า ชี้ลด 3% เหมือนไม่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ระบุอย่างน้อยต้อง 30-50% สนองนโยบายทำงานที่บ้านหยุดแพร่เชื้อโควิดของรัฐบาล

 ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ส่งผลทำให้หลายภาคส่วนได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะภาคประชาชนมนุษย์เงินเดือน และกลุ่มผู้ที่ทำอาชีพอิสระ ซึ่งรายได้กำลังหดหายจากเศรษฐกิจชะลอตัว การถูกเลิกจ้าง และการปรับลดเงินเดือน แต่สิ่งที่ไม่ได้ลดลงคือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

ทั้งนี้ภาครัฐได้ออกมาตรการเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นของแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการให้เงิน 5,000 บาท กับกลุ่มที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม การคืนเงินประกันค่าใช้ไฟฟ้า ฯลฯ แต่มีอีกมาตรการหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงอย่างมากว่าไม่น่าจะตอบโจทย์กับสถานการณ์ ณ ปัจจุบันคือ การลดค่าไฟฟ้า 3% ให้กับผู้ใช้ไฟทุกประเภทในรอบบิลตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน เป็นเวลา 3 เดือน ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เนื่องจากส่วนใหญ่ต้องทำงานที่บ้าน (Work From Home) ซึ่งแน่นอนว่าการใช้ไฟฟ้าย่อมเพิ่มขึ้น

นายพิศาล บัวศรี พนักงานบริษัทเอกชนรายหนึ่ง กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันต้องทำงานที่บ้าน เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลช่วยหยุดการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งการทำงานที่บ้านแม้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่ก็ต้องเสียค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากการอยู่บ้านตลอดทั้งวัน พร้อมกับใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะต้องชาร์ตไฟในการทำงาน เปิดพัดลม บางครั้งก็ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ(แอร์)บ้าง เพราะช่วงนี้อากาศร้อน มีการหุงข้าวรับประทาน ฯลฯ ทุกอย่างต้องใช้ไฟฟ้าเกือบทั้งสิ้น ซึ่งจะต่างจากช่วงเวลาปกติที่ต้องออกจากบ้านแต่เช้า และกลับเข้าบ้านในช่วงค่ำ การใช้ไฟฟ้าในแต่ละวันน้อยกว่า

หากเป็นไปได้อยากเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องการปรับลดค่าใช้ไฟฟ้า 30-40% เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ต้องทำงานอยู่บ้าน และในภาวะวิกฤติแบบนี้ตนและพนักงานบริษัทอีกจำนวนมากที่เป็นมนุษย์เงินเดือนต้องถูกปรับลดเงินเดือนลง จากบริษัทจำเป็นต้องลดภาระค่าใช้จ่ายจากรายได้ที่ลดลง

“เข้าใจว่าเป็นความพยายามของรัฐบาลที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน แต่หากถามผมการลดค่าไฟฟ้าให้ 3% นั้น ถือว่าแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะคนส่วนใหญ่ต้องทำงานอยู่บ้าน ทำให้มีค่าใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่อยู่เป็นครอบครัวทั้งพ่อแม่ลูก ทุกคนต่างก็ต้องใช้ไฟฟ้าในการทำกิจกรรมของแต่ละคน”

สอดคล้องกับนายสุจินต์ กรมพิศาล พนักงานบริษัทเอกชนอีกรายหนึ่ง ที่ให้ความเห็นว่า เมื่อรัฐบาลต้องการให้ประชาชนอยู่บ้านให้มากที่สุดเพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ดังนั้นมาตรการที่ออกมาสนับสนุนก็ควรที่จะต้องจูงใจอย่างมาก กรณีการปรับลดค่าใช้ไฟฟ้า 3% ให้ 3 เดือนนั้น มองว่าอาจจะน้อยเกินไปสำหรับผู้ที่จะต้องทำงานอยู่บ้านที่ต้องใช้ไฟฟ้ามากกว่าช่วงเวลาปกติ การลดเพียงแค่ 3% อาจจะไม่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเท่าใดนักอย่างน้อยน่าจะลดให้ 30-50%

“เข้าใจดีว่าการดำเนินมาตรการอะไรก็ตาม จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ แต่หากจะให้เห็นผลและเป็นการช่วยเหลือจริงควรที่จะต้องลดมากกว่ามาตรการที่ออกมา แต่คงไม่ถึงกับต้องเป็นนโยบายให้ใช้ไฟฟ้าฟรี 3 เดือน เพราะหากเป็นแบบนั้นผู้ใช้ไฟฟ้าอาจจะไม่เห็นคุณค่าของการใช้ไฟฟ้า และใช้ไปอย่างสิ้นเปลืองโดยที่ไม่คิดอะไร ดังนั้นจึงต้องการแค่ให้พิจารณาให้เหมาะสมมากกว่านี้ เพราะเท่าที่สอบถามกลุ่มเพื่อน ๆ ก็มีความคิดเห็นในทิศทางเดียวกัน”

 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 8 ปีที่ 40  ฉบับที่ 3,564 วันที่ 9 - 11 เมษายน พ.ศ. 2563

มนุษย์เงินเดือนขอลดค่าไฟ50% ช่วยลดภาระเวิร์กฟรอมโฮม