ศูนย์ข้อมูลไวรัสโคโรนา ของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮ็อปกินส์ ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 10,524 รายแล้วในวันจันทร์ที่ 6 เม.ย. 2563 นับเป็นประเทศที่ 3 ของโลกต่อจากอิตาลีและสเปน ที่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสชนิดนี้เกินหลักหมื่น
ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 356,942 ราย ในจำนวนนี้รักษาหายแล้ว 18,999 ราย โดยรัฐนิวยอร์กยังเป็นพื้นที่ที่การระบาดหนักที่สุดในสหรัฐฯ โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมมากถึง 130,689 ราย และมีผู้เสียชีวิตอีก 4,758 ราย ขณะที่รัฐไวโอมิงเพียงรัฐเดียวที่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด-19
ด้านวิทยาลัยการแพทย์มหาวิทยาวัยวอชิงตันระบุว่าช่วงพีคสุดของการระบาดในสหรัฐอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าคาดการก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าน่าจะเป็นช่วงต้นเดือนมิ.ย. โดยยอดผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดคาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 16 เมษายนกับตัวเลขผู้เสียชีวิตรายใหม่ 3,130 ราย
ส่วนที่น่าจับตาคือวันที่ 15 เมษายนนี้ จะเป็นวันที่มีการใช้ทรัพยากรและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในจุดที่สูงสุด คาดว่าจะมีความจำเป็นต้องการใช้เครื่องช่วยหายใจ 25,000 เครื่อง เตียงนอนทั่วไป 140,000 เตียง และเตียงผู้ป่วยหนักในแผนกไอซียู 29,000 เตียง แต่ข้อมูลระบุว่าในวันดังกล่าวมีแนวโน้มจะขาดแคลนเตียงนอนทั่วไป 36,000 เตียง และเตียงไอซียูอีก 16,000 เตียง