ผ่าแผนสู้โควิด ฟื้นเศรษฐกิจญี่ปุ่น 2 ระยะ 60 ล้านล้านเยน
สัปดาห์นี้ รัฐบาลญี่ปุ่นมีกำหนดให้การอนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฝ่าวิกฤติไวรัสโควิด-19 มูลค่า 60 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยราว 17.6 ล้านล้านบาท ถือเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาใประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ในช่วงต้นสัปดาห์ (6 เม.ย.) ยังมีการแต่งตั้งทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ภายใต้การดูแลของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ เป้าหมายเพื่อให้เป็นทีมงานหลักในการกำหนดแนวทางการสกัดกั้นและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ลดความซํ้าซ้อนและมากขั้นตอนของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และไม่ยึดติดกับแนวทางเก่าๆ มาตรการเดิมๆ ที่เคยใช้มาในการแก้ไขปัญหา เช่นมาตรการควบคุมบริเวณแนวชายแดนที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และมาตรการควบคุมการเดินทางของประชาชน
แพ็กเกจฟื้นเศรษฐกิจ 2 ระยะ
ในส่วนของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 60 ล้านล้านเยนนั้น จะแบ่งดำเนินการเป็น 2 ระยะเพื่อช่วยคนทำงานและบริษัทเอกชนให้สามารถประคองตัวเองรอดพ้นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เฟสแรก หรือระยะแรกของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ มีเป้าหมายเพื่อชะลอหรือยับยั้งการปลดคนงานรวมทั้งประคองไม่ให้บริษัทเอกชนต้องล้มละลาย
จากนั้น เมื่อรัฐบาลสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว ก็จะใช้มาตรการความช่วยเหลือเฟสที่ 2 หรือระยะ 2 เป้าหมายเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของธุรกิจต่างๆ หลังผ่านพ้นภาวะวิกฤติ ซึ่งญี่ปุ่นคาดหวังการฟื้นตัวแบบพุ่งขึ้นเป็นรูปตัววี (V) จึงจำเป็นต้องมีมาตรการช่วยเหลือ-สนับสนุนการฟื้นตัวของผู้ประกอบการออกมา
ทั้งนี้ ตัวเลขวงเงินของมาตรการช่วยเหลือนั้นอ้างอิงจากตัวเลขที่รัฐบาลได้หารือกับพรรคแอลดีพี ที่เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ตัวเลขที่แท้จริงจะเป็นวงเงินเท่าใดนั้นจะประกาศอย่างเป็นทางการโดยนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรี ในเบื้องต้นนั้น ข้อเสนอวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 60 ล้านล้านเยนจะประกอบด้วยการใช้เงินงบประมาณ 20 ล้านล้านเยน ซึ่งในจำนวนนี้กว่า 10 ล้านล้านเยนจะจัดสรรมาใช้เป็นเงินสดที่รัฐบาลจะแจกให้กับครัวเรือนของประชาชนที่มีรายได้น้อยและได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยรัฐบาลมีแผนแจกเงินครัวเรือนละ 300,000 เยน นอกจากนี้ ยังมีเงินเพิ่มเติมสำหรับครอบครัวที่มีบุตรวัยเรียน
ช่วยเอกชนไม่ลดคนงาน
ในส่วนของความช่วยเหลือที่จะให้กับผู้ประกอบการเอกชนนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนให้เงินอุดหนุนพิเศษแก่บริษัทที่ไม่ปลดคนงาน และผ่อนผันให้บริษัทที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สามารถยืดระยะเวลาการชำระภาษีออกไปเป็นเวลาถึง 1 ปี ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยยังสามารถได้รับความช่วยเหลือทางภาษี
เช่น ได้รับลดหย่อน หรือบางรายอาจได้รับงดเว้นไม่ต้องจ่ายภาษีทรัพย์สิน เป็นต้น จนถึงขณะนี้ อัตราการว่างงานในญี่ปุ่นยังคงตรึงอยู่ที่ระดับ 2.4% แต่เริ่มมีสัญญาณว่า ตลาดแรงงานอาจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในภาคธุรกิจบริการ การท่องเที่ยวและโรงแรม
ล่าสุดตัวเลขตำแหน่งงานที่ยังต้องการรับคนเพิ่มมีลดลงจนถึงระดับตํ่าสุดในรอบ 3 ปี นอกจากนี้ จำนวนผู้ขอรับความช่วยเหลือในรูปเงินกู้ฉุกเฉินสำหรับผู้ตกงานหรือผู้ที่ถูกปรับลดเงินเดือน ยังทะยานสูงขึ้นมาก
แหล่งข่าวใกล้ชิดในรัฐบาลญี่ปุ่นยังเปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า ในแผนช่วยเหลือกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 ยังครอบคลุมถึงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคและกระตุ้นการท่องเที่ยว ตลอดจน การให้เงินอุดหนุนแก่รัฐบาลท้องถิ่นในการนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจระดับชุมชนท้องถิ่นด้วย