เลื่อน-เลิกแล้วกว่า 100 งาน แฟร์ไทย-โลกป่วนไม่หยุด

ผู้สื่อข่าวตรวจสอบเว็บไซต์ www.ditp.go.th ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ณ วันที่ 5 เมษายน 2563 พบว่า งานแสดงสินค้าที่ไทยจะไปจัดในต่างประเทศ รวมถึงงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติที่ผู้ประกอบการของไทยมีแผนจะเข้าร่วมรวม 166 งานตลอดทั้งปีนี้เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้านำรายได้เข้าประเทศ ล่าสุดประกาศเลิกจัดงานอย่างเป็นทางการแล้ว 15 งาน ขณะที่เลื่อนการจัดงานแล้ว 91 งาน รวมทั้งสิ้น 106 งาน

สำหรับงานแสดงสินค้าที่จะจัดในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงพฤษภาคม 2563 ที่ได้ประกาศรยกเลิกการจัดงานแล้ว 15 งาน อาทิ งาน Top Thai Brand ณ นครเวียงจันทร์ สปป.ลาว, งาน FOODEX Japan ประเทศญี่ปุ่น, งาน CINEMACON นครลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เป็นต้น

ส่วนที่มีการเลื่อนการจัดงาน 91 งาน อาทิ งาน  AUTOMECHANIKA HO CHI MINH CITY ที่เวียดนาม  เลื่อนการจัดอย่างไม่เป็นทางการจากวันที่ 5-7 มีนาคมเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2563, งาน Taipei International Book Exhibition (TIBE) 2020 ที่ไต้หวัน จากจะจัดระหว่างวันที่ 4-9 กุมภาพันธ์ เลื่อนเป็นวันที่ 7-12 พฤษภาคม 2563, งาน Hong Kong International Film & TV Market 2020 (Filmart 2020) จากจะจัดระหว่างวันที่ 25-28 มีนาคม เลื่อนเป็น 27-29 สิงหาคม 2563, งาน China Food & Drink Fair ณ นครเฉิงตู ประเทศจีน จากวันที่ 26-28 มีนาคม เลื่อนเป็นวันที่ 21-23 พฤษภาคม 2563 และงาน Cosmo Beauty Seoul 2020 ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลี จากวันที่ 23-25 เมษายน 2563 เลื่อนเป็นวันที่ 5-7 พฤษภาคม 2564 เป็นต้น

ก่อนหน้านี้ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า จากข้อมูลของสมาคมการแสดงสินค้าโลก (UFI) ปี 2563 ทั่วโลกจะมีงานแสดงสินค้า 8,973 งาน งานประชุม(ไมซ์) 1,304 งาน รวมทั้งสิ้น 10,277 งาน คาดจะสร้างมูลค่าการผลิตให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง 3.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ประมาณ 10.07 ล้านล้านบาท คำนวณที่ 31 บาทต่อดอลลาร์) สร้างงาน 3.2 ล้านคน

ทั้งนี้ผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนมีข้อจำกัดในการเดินทางเข้าร่วมงาน ทาง UFI ได้ออกมาคาดการณ์ ณ วันที่ 11 มีนาคม 2563 ว่า จะส่งผลทำให้มูลค่าการผลิตสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับงานหายไป 16,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ประมาณ 5.11 แสนล้านบาท)(โดยปกติในแต่ละเดือนจะสร้างมูลค่าการผลิตเฉลี่ย 26,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

ขณะที่หากงานหยุดไปตั้งแต่เดือนมีนาคม-มิถุนายน จะทำให้มูลค่าการผลิตหายไป 40% มูลค่า 1.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (4.03 ล้านล้านบาท) แรงงานที่เกี่ยวเนื่องว่างงาน 1.3 ล้านคน ซึ่งจะกระทบต่อเนื่องต่อการค้าโลกที่จะชะลอตัวมากขึ้น เพราะแต่ละงานจะเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุตสาหกรรมของโลก ซึ่งในส่วนของไทยในหนึ่งงานแสดงสินค้าทำให้ไทยส่งออกได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.02% ดังนั้นหากมุลค่าการผลิตขิงดลกหายไป 1.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะกระทบการส่งออกไทยหายไปประมาณ  9 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.5% ของการส่งออกไทยในภาพรวม