นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ของบริษัทจากเดิมที่กำหนดไว้ในวันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน 2563 ห้อง Synergy Hall ชั้น 6 ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคาร ซี เลขที่ 555/3 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 ออกไปโดยไม่มีกำหนดจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ จึงจะแจ้งกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ที่จะจัดขึ้นใหม่
ทั้งนี้ ให้ยกเลิกกำหนดวันประชุม ระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 2563 และวันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้นในการเข้าประชุมผู้ถือหุ้นปี 2563 (XM) ที่กำหนดไว้ในวันที่ 2 มีนาคม 2563 แต่ให้คงวันกำหนดสิทธิในการได้รับเงินปันผล (XD) เพื่อการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล อนึ่งการเลื่อนประชุมสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าวไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท หรือคิดเป็นเงินประมาณ 4,487 ล้านบาท โดยจ่ายจากกำไรสะสมส่วนที่ยังไม่ได้จัดสรรของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ดังนี้ 1.กำไรส่วนที่เสียภาษีในอัตรา 10% ที่อัตราหุ้นละ 0.42 บาท ซึ่งผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดา ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% แต่สามารถเครดิตภาษีเงินปันผลได้ 10/90
2.กำไรส่วนที่เสียภาษีในอัตรา 20% ที่อัตราหุ้นละ 0.40 บาท ซึ่งผู้ถือหุ้นเป็นบุคคลธรรมดาต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% แต่สามารถเครดิตภาษีเงินปันผลได้ 20/80 และ3.กำไรส่วนที่เสียภาษีในอัตรา 30% ที่อัตราหุ้นละ 0.18 บาท ซึ่งผู้ถือหุ้นเป็นบุคคลธรรมดาต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% แต่สามารถเครดิตภาษีเงินปันผลได้ 30/70 โดยการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าวจ่ายให้เฉพาะผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 2 มีนาคม 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 เมษายน 2563 ซึ่งเป็นวันกำหนดสิทธิและวันจ่ายเงินปันผลเดิมที่ได้แจ้งผู้ถือหุ้นไว้แล้ว
“คณะกรรมการบริษัทพิจารณาจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ถือหุ้นจากการเลื่อนประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทออกไป ซึ่งการจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท เมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปี 2562 ที่จ่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2562 ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 4,508 ล้านบาท รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 8,995 ล้านบาท โดยจ่ายจากกำไรสะสมส่วนที่ยังไม่ได้จัดสรรของบริษัทฯ และบริษัทจะรายงานเรื่องการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมคราวต่อไป”