นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์ส่งออกข้าวไทยว่าขณะนี้ถืออยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และต้องติดตามจากหลายสถานการณ์ เช่น เวลานี้เวียดนามอาจมีการห้ามส่งออกข้าวจากราคาข้าวภายในประเทศสูงขึ้นจากการกักตุนกันเองและห่วงว่าการเก็บเกี่ยวรอบหน้าจะมีปัญหาจากภัยแล้ง และน้ำทะเลหนุนเข้าไปในแม่น้ำกว่า 100 กิโลเมตร
ผู้ส่งออกไทยรอดูทิศทางว่ารัฐบาลเวียดนามจะประกาศเมื่อไหร่ จะห้ามส่งออกทั้งหมดหรือกำหนดเป็นโควตา ซึ่งยังไม่มีข้อสรุป แต่คาดจะทราบผลภายในสัปดาห์นี้ โดยหากมีการห้ามส่งออกจริง จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ซื้อ ไทยอาจได้อานิสงส์ตรงนี้เพราะคำสั่งซื้อจะมาที่ไทยมากขึ้น และต้องจับตาอินโดนีเซียที่อยู่ระหว่างพิจารณาซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) น่าจะเป็นโอกาสของไทย รวมถึงจีนแม้จะมีสต๊อกข้าวจำนวนมากแต่ยังไม่ส่งออกในช่วงนี้ เพราะต้องเก็บสต๊อกข้าวไว้บริโภคภายในประเทศจากปัญหาโควิด-19 น่าจะส่งผลดีต่อไทยเช่นกัน
สำหรับราคาส่งออกข้าว (ราคาเอฟโอบี) ขณะนี้ข้าวขาว 5% ของไทยปรับขึ้นจากช่วงต้นปีอยู่ที่ 380-390 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน มาอยู่ที่ 500 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ส่วนข้าวเวียดนามอยู่ที่ 430 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน และอินเดียราคาถูกสุดอยู่ที่ 360 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน
“ภายใต้วิกฤติไวรัสโควิด-19 ระบาด เวลานี้ไทยส่งออกข้าวถุงข้าวหอมมะลิไปตลาดฮ่องกง จีน สหรัฐฯ สิงคโปร์ แคนาดา ได้เพิ่มขึ้น โดยในเดือนมีนาคมส่งออกไปถึง 2 แสนตัน ซึ่งเป็นชนิดข้าวที่ส่งออกได้มากในช่วงนี้ ส่วนข้าวขาว 5% ตลาดยังนิ่ง ทำให้ภาพรวมการส่งออกข้าวไทยช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ ส่งออกรวมได้เพียง 9 แสนตัน โดยเดือนมกราคมส่งไป 5.5 แสนตัน และกุมภาพันธ์ประมาณ 4 แสนตัน ส่วนเดือนมีนาคมน่าจะส่งออกได้ประมาณ 6 แสนตัน และในไตรมาส 2 น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น
หน้า 9 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,562 วันที่ 2 - 4 เมษายน พ.ศ. 2563