สื่อต่างประเทศรายงานว่า บริษัทฟอร์ด มอเตอร์ของสหรัฐ จะผลิตเครื่องช่วยหายใจ 50,000 เครื่องในช่วง 3 เดือนข้างหน้าที่โรงงานในรัฐมิชิแกน โดยร่วมมือกับบริษัทจีอี เฮลธ์แคร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) และหลังจากนั้น ทั้งสองบริษัทจะสามารถผลิตเครื่องช่วยหายใจ 30,000 เครื่องต่อเดือน เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19
ฟอร์ดระบุว่า การออกแบบเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งทางจีอี เฮลธ์แคร์ได้รับใบอนุญาตจากบริษัทไอรอน คอร์ปซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐฟลอริดา และได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) แล้วนั้น จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่ และจะใช้งานได้โดยอาศัยความดันอากาศ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า
ฟอร์ดวางแผนที่จะเริ่มการผลิตเครื่องช่วยหายใจดังกล่าวเบื้องต้นการผลิตจะเริ่มขึ้นวันที่ 20 เมษายนนี้ ในโรงงานที่รัฐมิชิแกน โดยมีพนักงานของสหภาพแรงงานรถยนต์ (UAW) จำนวน 500 คน เข้ามาช่วยผลิต
ทางด้านบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ก็เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทจะผลิตเครื่องช่วยหายใจราว 10,000 เครื่องต่อเดือนในฤดูร้อนนี้ (มิ.ย.-ส.ค.) ที่โรงงานในรัฐอินเดียนา
“คาดว่าเครื่องช่วยหายใจ 1,500 เครื่องจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนเมษายน เมื่อถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมจะเพิ่มเป็น 12,000 เครื่อง และครบ 50,000 เครื่องภายในวันที่ 4 กรกฎาคม หลังจากนั้นสามารถเพิ่มการผลิตได้สูงถึงเดือนละ 30,000 เครื่อง หากยังมีความจำเป็นอยู่”
สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก ตัวเลขล่าสุด (31 มีนาคม) พบว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 19,988 รายในวันเดียว ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงถึง 163,479 ราย และมีจำนวนเสียชีวิตแล้ว 3,148 ราย