บีซีพีจี เลื่อนประชุมผู้ถือหุ้น จ่ายปันผลหุ้นละ 0.16 บาท

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติ เมื่อวันที่ 30  มีนาคม 2563 ว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทยในปัจจุบันมีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเริ่มกระจายในวงกว้างมากขึ้น ประกอบกับรัฐบาลได้ขอความร่วมมือเอกชนในหลายช่องทาง ให้พิจารณาความจำเป็นในการจัดกิจกรรมที่มีลักษณะเป็นการรวมกลุ่มกันของคนจำนวนมาก ซึ่งเป็นโอกาสที่ทำให้การแพร่ระบาดเกิดขึ้นและกระจายสู่บุคคลทั่วไปได้โดยง่าย บริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยห่วงใยในสุขอนามัยและความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมประชุมและทีมงานทุกฝ่าย และมีความกังวลว่า ถึงแม้บริษัทฯ จะจัดเตรียมมาตรการอย่างเข้มงวด เพื่อรองรับการประชุมของผู้ถือหุ้นเพียงใด ก็ไม่อาจรับรองได้ว่าจะสามารถป้องกันความเสี่ยงได้อย่างชัดเจน  ด้วยเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติ ดังนี้

1.อนุมัติให้เลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าวออกไป โดยยกเลิกกำหนดวันประชุมและระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ที่กำหนดไว้ วันที่ 9 เมษายน 2563  โดยการเลื่อนประชุมสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งสิทธิของผู้ถือหุ้นในการรับเงินปันผล  ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณากำหนดวาระการประชุมและวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นขึ้นใหม่เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย และมีความเหมาะสม ซึ่งจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบต่อไป

                                        นายบัณฑิต สะเพียรชัย      

2.อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสุทธิของบริษัทฯ ที่ปรากฏในงบการเงิน ณ สิ้นปี 2562  ในอัตราหุ้นละ 0.16 บาท แทนการจ่ายเงินปันผลประจำปี ตามที่จะเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 โดยจะจ่ายให้ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อในทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 4 มีนาคม 2563 ซึ่งเป็นวันที่กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลเดิมที่ได้แจ้งผู้ถือหุ้นไว้แล้ว และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าว ในวันที่ 17 เมษายน 2563

บริษัทฯ ขออภัยท่านผู้ถือหุ้นที่แจ้งเลื่อนประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 อย่างกะทันหันจากการพิจารณาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยบริษัทฯ จะติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างใกล้ชิดรวมถึงการพิจารณาทางเลือกในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นด้วยวิธีการอื่นใดที่กฎหมายกำหนดให้ทำได้ เพื่อจัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นต่อไปโดยเร็ว