ตำหนิ “อินเดีย”ทำผิดวิธี พ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อใส่กลุ่มแรงงานต่างถิ่น

30 มี.ค. 2563 | 23:26 น.

ซีเอ็นเอ็นรายงาน(31 มี.ค.)กระแสวิพากษ์วิจารณ์วิธีการที่เจ้าหน้าที่รัฐอุตตรประเทศของอินเดีย ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคใส่กลุ่มแรงงานต่างถิ่นที่เดินทางกลับบ้าน หลังจากรัฐบาลประกาศมาตรการปิดเมืองทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งตามปกติแล้ววิธีดังกล่าวใช้ฉีดพ่นฆ่าเชื้อรถบัส แต่เจ้าหน้าที่กลับนำมาใช้กับกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ที่กลับมาบ้านยังเมืองบาเรลี โดยให้เห็นคนงานนั่งอยู่กับพื้น ส่วนเจ้าหน้าที่ลากสายยางฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อแรงดันสูงเข้าใส่

นายอโศก โกทัม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทีมปฏิบัติการโควิด-19 รัฐอุตตรประเทศ กล่าวว่า มีคนงาน 5,000 คนที่ถูกฉีดฆ่าเชื้อก่อน ถึงจะปล่อยให้เดินทางกลับบ้านได้

"เราต้องพ่นฆ่าเชื้อพวกเขา เราไม่ต้องการให้พวกเขานำเชื้อไวรัสไปโน่นไปนี่ เพราะเชื้ออาจติดเสื้อผ้าอยู่ ตอนนี้ด่านพรมแดนทุกแห่งปิดหมดแล้ว เราไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก" นายอโศกกล่าว และว่า น้ำยาฆ่าเชื้อมาจากการผสมแป้งฆ่าเชื้อที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก การฆ่าเชื้อด้วยสารเคมีบนพื้นผิวต่างๆ อาจเป็นอันตรายต่อคนได้ น้ำยาเพียงแต่จะฆ่าเชื้อที่ผิว แต่ฆ่าไวรัสที่อยู่ในร่างกายไม่ได้

นายลาภ อัครวาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ส่วนกลาง กล่าวว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ที่รัฐอุตตรประเทศน่าตำหนิมาก เพราะทำเกินกว่าเหตุ การสเปรย์ฆ่าเชื้อใส่คนงานต่างถิ่นไม่ได้เป็นนโยบายของประเทศ ทางการสั่งแค่ให้ฆ่าเชื้อรถบัส

ปัจจุบัน อินเดียอยู่ระหว่างการใช้มาตรการปิดประเทศ และปิดเมือง คนงานต่างถิ่นของอินเดีย 45 ล้านคน จึงต้องกลับบ้านตามชนบท เพราะไม่มีงานในเมืองให้ทำ ขณะอินเดียมีผู้ติดโควิด-19 แล้ว 1,071 คน เสียชีวิตแล้วกว่า 10 ราย

ก่อนหน้านี้นายนเรนทรา โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย มีคำสั่งให้ประชาชนทุกคนทั่วประเทศกว่า 1,300 ล้านคน ซึ่งมีสัดส่วน 1 ใน 5 ของโลก ต้องเก็บตัวในที่พักอาศัยเป็นระยะเวลานาน 3 สัปดาห์ เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังอินเดียพบผู้ติดเชื้อและ เสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยผู้นำอินเดีย ระบุว่า จำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อช่วยชีวิตชาวอินเดียทุกคน