“สีจิ้นผิง”เรียกร้องกลุ่มG20สามัคคีร่วมรับมือโควิด-19

30 มี.ค. 2563 | 08:37 น.

“ผู้นำจีน”เรียกร้องสมาชิกกลุ่ม G20 ร่วมรับมือกับไวรัสโควิด-19ด้วยความสามัคคีกัน การประชุมทางไกลผู้นำกลุ่ม G20 เพื่อรับมือกับไวรัสโควิด-19


วันนี้( 30 มี.ค.63) พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่ผู้นำจีนได้เน้นถึงแนวทางของจีนในการร่วมสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้


1.เมื่อวันที่ 26 มี.ค.63 ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เข้าร่วมการประชุมทางไกลผู้นำกลุ่ม G20 เพื่อรับมือกับไวรัสโควิด-19 ที่กรุงปักกิ่ง โดยผู้นำจีนได้เรียกร้องให้สมาชิก G20 ดำเนินมาตรการร่วมกันในการลดภาษีศุลกากร รวมทั้งขจัดอุปสรรค และทำให้การค้าดำเนินไปอย่างราบรื่น อันเป็นการส่งสัญญาณแรงต่อการเพิ่มขวัญกำลังใจสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการที่จีนจะเพิ่มการสนับสนุนสินค้าที่ตลาดต่างประเทศต้องการ เช่น ยาประเภท API, อุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาด และสิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เป็นต้น 


ตลอดจนจะใช้นโยบายการคลังเชิงรุกและนโยบายการเงินที่รอบคอบต่อไป โดยการขยายการปฏิรูปและเปิดประเทศ การผ่อนคลายการเข้าถึงตลาด การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง การขยายการนำเข้าอย่างแข็งขัน และการขยายการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อช่วยสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโลก 

 

 

2.ในการประชุมทางไกลผู้นำกลุ่ม G20 ดังกล่าว ได้มีการประกาศแถลงการณ์ว่า  
     

2.1 เนื่องจากไวรัสไม่มีการแบ่งแยกพรมแดน ดังนั้น สมาชิกกลุ่ม G20 ควรรับมือกับไวรัสด้วยความสามัคคีกัน โดยสัญญาว่าจะใช้มาตรการทุกอย่างเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัส เพื่อปกป้องชีวิตประชาชน และเห็นพ้องกันที่จะแบ่งปันข้อมูล การประกันการสนองตอบด้านเวชภัณฑ์ การสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนา และประเทศที่ด้อยพัฒนา 
รวมทั้งเรียกร้องให้จัดการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขระหว่างประเทศ ในช่วงที่จำเป็น และดำเนินการปฏิบัติอย่างเร่งด่วนในการต่อต้านการระบาดในครั้งนี้ ตลอดจนจะร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ โดยเฉพาะองค์การอนามัยโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ และธนาคารโลก เป็นต้น ในขณะเดียวกัน จะปรับปรุงระบบสาธารณสุขทั่วโลกให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับโรคระบาดในอนาคต  
     

2.2 กลุ่ม G20 จะดำเนินมาตรการสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจทั่วโลก เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและบริษัท โดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็กและขนาดย่อม และมีการเพิ่มเงินทุนจำนวน 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้เศรษฐกิจโลก เพื่อรับมือกับผลกระทบด้านเศรษฐกิจและการเงิน จากการระบาดของโรคในครั้งนี้ และจะดำเนินนโยบายทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อลดผลกระทบของการแพร่ระบาดในครั้งนี้ที่มีต่อสังคมและเศรษฐกิจทั่วโลก รวมทั้งฟื้นฟูการพัฒนาของโลก การรักษาความมั่นคงทางการตลาด 


รวมถึงส่งเสริมความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กลุ่ม G20 จะพยายามประกันการนำเข้า-ส่งออกเวชภัณฑ์สำคัญ สินค้าการเกษตรที่สำคัญ สินค้าประเภทอื่นๆ ตลอดจนการบริการให้ดำเนินไปอย่างปกติ และแก้ไขปัญหาการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก 
 

 

บทสรุป ประชาคมโลกต้องการการส่งเสริมความร่วมมือ เพื่อรับมือกับการท้าทายร่วมกัน โดยเฉพาะหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่านพ้นไป ความต้องการด้านการบริโภคที่เกี่ยวข้องจะกลับสู่ภาวะปกติ แรงขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว 


ดังนั้น ความได้เปรียบทางเทคโนโลยีของจีน เช่น 5G ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อี-คอมเมิร์ซ คอร์สออนไลน์ และการผลิตแบบอัจฉริยะ ฯลฯ รวมทั้งการที่จีนมุ่งแก้ไขจุดอ่อน โดยจะเพิ่มการลงทุนในด้านการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณสุข และเพิ่มความสามารถในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินให้มากยิ่งขึ้น ก็จะเป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว 
นอกจากนั้น ปัจจัยทางการตลาดขนาดใหญ่และความต้องการที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จะยังเป็นแรงผลักดันที่สำคัญสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน ซึ่งจะส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโลก