แสนสิริ สวนกระแสวิกฤต ยอดขายไตรมาสแรกพุ่ง ขึ้นอันดับ 1 ผู้นำอสังหาฯ

30 มี.ค. 2563 | 07:10 น.

บมจ.แสนสิริ โชว์ยอดขายไตรมาสแรก พุ่ง 11,000 ลบ. สูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โกย 40% จากเป้ารวมปี 63 ขึ้นแท่นผู้นำอันดับ 1 อสังหาริมทรัพย์ไทย พร้อมประกาศลุยต่อไตรมาส 2 รุกขายที่โครงการและผ่านทุกช่องทาง ชู Cash flow สานต่อความแข็งแกร่งในทุกสภาวการณ์

นายอุทัย  อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทสามารถสร้างยอดขายไตรมาสแรกของปี 2563 ได้สูงถึง 11,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นยอดขายที่สูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ และคิดเป็นการสร้างยอดขายได้ถึง 40% จากเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่วางไว้ 29,000 ล้านบาท เป็นการสร้างยอดขายที่ประสบความสำเร็จและรวดเร็วได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ รวมทั้งยังเติบโตขึ้นเกือบ 70% จากช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ความสำเร็จมาจากการเป็น “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน” ที่ได้รับรางวัลผู้นำแบรนด์อสังหาฯ ทรงพลังที่สุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากผลการวิจัยเชิงลึกของ Terra BKK เว็บไซต์ด้านอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ชั้นนำ แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ทั้งในด้านคุณภาพ ดีไซน์ รวมถึงการบริการ หรือ Sansiri Service ที่ทำให้ บ้านได้มากกว่าบ้าน จากการมอบบริการที่ดีที่สุดทั้งก่อนและหลังการขาย ยังรวมถึง LIV-24 ที่ดูแลความปลอดภัยส่งตรงจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง มาตรฐานแสนสิริ พร้อมเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลทุกจุดในโครงการ พร้อมพริวิเล็จมากมายจากแสนสิริ แฟมิลี่ ซึ่งเมื่อรวมกับภาพรวมดีมานต์ที่อยู่อาศัยที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อแสนสิรินำเสนอแคมเปญที่สามารถเข้าถึงและตอบรับเรียลดีมานต์ได้เป็นอย่างดี จึงส่งผลให้ประสบความสำเร็จด้านยอดขายในช่วงไตรมาสแรก 

นอกจากนี้ บริษัทยังประสบความสำเร็จ จากการนำเสนอขายหุ้นกู้มูลค่า 4,000 ล้านบาทในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีสภาพคล่องที่สูงจากการนำเงินทุนที่ได้มาพัฒนาโครงการใหม่อย่างมีประสิทธิภาพและขยายการลงทุนได้อย่างเต็มที่ สะท้อนถึงความความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อแสนสิริ รวมถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และ Cash Flow ที่ดี รวมถึงบริษัทยังมี Presale Backlog ที่พร้อมเป็นยอดขายที่สำคัญให้กับแสนสิริในปีนี้และรองรับการเติบโตระยะยาวใน 4 ปี อีกถึง 49,100 ล้านบาท ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับแสนสิริได้เป็นอย่างดีและเสริมความแข็งแกร่งในทุกสภาวการณ์เศรษฐกิจ 

“สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 2 บริษัทยังมีโครงการที่อยู่อาศัยพร้อมเข้าอยู่ในทุกรูปแบบ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม มิกซ์โปรดักส์ และคอนโดมิเนียม ที่ครอบคลุมในทุกระดับราคา เริ่มตั้นตั้งแต่ 990,000 บาท ที่เตรียมความพร้อมรองรับความต้องการของลูกค้า ทั้งราคาที่ดี ดีลที่ดี โปรโมชั่นพิเศษ รวมถึงข้อเสนอและอัตราดอกเบี้ยสุดพิเศษพร้อมการให้คำแนะนำในการซื้อที่อยู่อาศัยได้ง่ายๆ จากแสนสิริและสถาบันการเงินที่พร้อมให้คำปรึกษา ที่ Sale Gallery ของแสนสิริ ที่เปิดการขายภายใต้ความมั่นใจสูงสุด ในการเตรียมความพร้อมให้แก่ลูกค้า ในการเข้าเยี่ยมชมโครงการ ด้วยแนวทาง “Sansiri Care เพราะเราห่วงใย” เพื่อความอุ่นใจและมั่นใจในมาตรการป้องกันและดูแลในภาวะเฝ้าระวังในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสุงสุด 

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมเปิดตัวแคมเปญใหม่ ในช่วงไตรมาส 2 ที่จะช่วยกระตุ้นตลาดและตอบรับกลุ่มลูกค้าได้ดีเช่นเดียวกับไตรมาสแรก รวมถึงการรุกการขายในทุกช่องทาง โดยได้เตรียมต่อยอด “24 Hrs. Pre-Sale Online Booking” พรีเซลแบบออนไลน์เรียลไทม์ 100%  ครั้งแรกในไทย ที่ประสบความสำเร็จจากการนำร่องเปิดขายที่โครงการ เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นการมอบประสบการณ์ใหม่แก่ลูกค้ายุคดิจิทัล โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อโครงการคุณภาพพร้อมอยู่ด้วยตนเอง ผ่านช่องทางออนไลน์แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง สะดวก ง่าย ปลอดภัย และคุ้มค่า ด้วยระบบติดต่อและรับคำปรึกษาจากที่ปรึกษาการขาย Online Agent ผ่าน Live Chat หรือ VDO Call รวมถึงเจ้าหน้าที่คอยดูแลและให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโครงการ ระบบธุรกรรมการเงิน ที่สามารถชำระเงินจองผ่านบัตรเครดิตที่มีความปลอดภัยสูง โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม นอกจากนี้ ยังขนทัพโครงการพร้อมอยู่อีก 10 โครงการ ใน 10 สุดยอดทำเล ให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อและชมโครงการได้ทาง Sansiri 24 Online Booking พร้อมโปรโมชั่นพิเศษลุ้นรับส่วนลดสูงสุดถึง 1 ล้านบาท 

 

“แสนสิริ ยังได้เตรียมความพร้อมรับมือ Covid-19 โดยได้ผนึก พลัส พร็อพเพอร์ตี้ วางมาตรการเน้นย้ำความปลอดภัยและสุขอนามัยของลูกบ้าน ลูกค้า พนักงานและพันธมิตร ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญ โดยชูแนวทาง “Sansiri Care เพราะเราห่วงใย” เตรียมความพร้อมในการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยยกระดับ 3 มาตรการแบบเต็มขั้น ได้แก่ มาตรการการป้องกัน การดูแล และการรับมือ ครอบคลุมทั้งในด้านความสะอาด, การอำนวยความสะดวกและเตรียมพร้อมรับมือ พร้อมจัดตั้งทีมงานศึกษาและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัยทั้งในโครงการและในทุกสำนักงานขาย เพราะความปลอดภัยของลูกบ้านและลุกค้าที่มาเยี่ยมชมโครงการเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด ” นายอุทัย กล่าว