“เซ็นทรัล”ประกาศยกเว้นค่าเช่าร้านถูกปิด

28 มี.ค. 2563 | 22:34 น.

 

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องแนวทางการการบริหารจัดการของบริษัทเพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 (COVID-19) เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา  โดยประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ กรณีการปิดให้บริการศูนย์การค้าบางแห่งชั่วคราวตามประกาศของทางภาครัฐในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรค COVID-19 ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด

CPN ยืนยันว่าบริษัทฯจะยกเว้นค่าเช่าให้แก่ร้านค้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้จากการปิดให้บริการศูนย์การค้าชั่วคราวตามประกาศภาครัฐ รวมถึงมีการลดค่าเช่าให้แก่ร้านค้าในศูนย์การค้าที่ยังเปิดให้บริการตามปกติแต่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาร้านค้าในศูนย์การค้าของบริษัทฯ และพร้อมจะช่วยประสานงานให้ภาครัฐออกนโยบายเพื่อมาเยียวยาดูแลทุกภาคส่วนทั้งผู้ประกอบการร้านค้าพนักงานร้านค้า และลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบและขาดรายได้จากวิกฤตการณ์ครั้งนี้

สำหรับ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ปิดให้บริการศูนย์การค้าชั่วคราวทั้งหมด 15 โครงการ ระหว่างวันที่     22 มีนาคม - 30 เมษายน 2563 (ยกเว้น เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา ปิดให้บริการระหว่างวันที่22-31 มีนาคม 2562) ตามข้อกำหนดของกรุงเทพมหานครและจังหวัดในเขตปริมณฑล

CPN ระบุบริษัทฯ มีศูนย์การค้าทั้งหมด 18 โครงการ โดยได้ทยอยปิดให้บริการศูนย์การค้าชั่วคราวไปแล้ว 13 โครงการตามข้อกำหนดของแต่ละจังหวัด ดังต่อไปนี้

เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา (ปิดระหว่างวันที่ 22 มีนาคม - 12 เมษายน 2563)

เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น (ปิดระหว่างวันที่ 23 มีนาคม - 12 เมษายน 2563)

เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี (ปิดระหว่างวันที่ 23 มีนาคม - 12 เมษายน 2563)

 เซ็นทรัลพลาซา ลำปาง (ปิดระหว่างวันที่ 24 มีนาคม - 12 เมษายน 2563)

เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต (ปิดระหว่างวันที่ 23 มีนาคม - 13 เมษายน 2563)

เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ (ปิดระหว่างวันที่ 23 มีนาคม - 13 เมษายน 2563)

เซ็นทรัล ภูเก็ต (ปิดระหว่างวันที่ 24-31 มีนาคม 2563)

เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ (ปิดระหว่างวันที่ 24 มีนาคม - 12 เมษายน 2563)

เซ็นทรัลพลาซา พิษณุโลก (ปิดระหว่างวันที่ 26 มีนาคม - 30 เมษายน 2563)

เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช (ปิดระหว่างวันที่ 25 มีนาคม จนกว่าจะกำหนดอีกครั้ง)

เซ็นทรัล มารีนา (ปิดระหว่างวันที่ 25 มีนาคม จนกว่าจะกำหนดอีกครั้ง)

เซ็นทรัลพลาซา ชลบุรี (ปิดระหว่างวันที่ 25 มีนาคม จนกว่าจะกำหนดอีกครั้ง)

เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย (ปิดระหว่างวันที่ 28 มีนาคม จนกว่าจะกำหนดอีกครั้ง)

CPN ยังชี้แจงแผนการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายจากสถานการณ์ปัจจุบันที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจนั้น บริษัทฯ ได้เตรียมแผนการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายการดำเนินงานต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อรายได้และความสามารถในการทำกำไร โดยปรับลดค่าใช้จ่ายแปรผัน (Variable Expense) อาทิ ค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายผู้ให้บริการจากภายนอก (Outsource) บางส่วนตามระดับการปฏิบัติงานที่ลดลง รวมถึงค่าใช้จ่ายการบริหารทั่วไปตามจำนวนพนักงานที่สำนักงานลดลงจากนโยบายให้ทำงานจากที่บ้าน (Work From Home)

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน อาทิ ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ ค่าใช้จ่ายการเดินทางของพนักงานเพื่อปฏิบัติหน้าที่ เป็นต้น ตลอดจนมีการเจรจากับกับคู่ค้าเพื่อให้การดำเนินงานและเงื่อนไขต่างๆสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและสภาพแวดล้อมที่จำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม

ในหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ CPN ยังระบุด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทฯได้ดำเนินแผนสำรองทางธุรกิจ (Business Continuity Plan หรือ BCP) โดยอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้านและสถานที่ต่างๆ ที่ไม่อยู่ในพื้นที่สุ่มเสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดและรองรับให้ทุกธุรกิจสามารถดำเนินงานได้ตามปกติอย่างไม่ขาดตอนอีกทั้งได้มีการทบทวนแผนงานของพนักงานทั่วทั้งองค์กรอย่างละเอียดรอบคอบ ระงับการจ้างพนักงานใหม่ชั่วคราว  และปรับแผนงานของทุกแผนกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานให้สูงสุด

บริษัทฯ ยังคงพิจารณาหาแนวทางลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และพร้อมที่จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดหากสถานการณ์ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่แย่ลง

หนังสือชี้แจง CPN ระบุว่า ในสถานการณ์นี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการรักษากระแสเงินสดและเตรียมความพร้อมด้านสภาพคล่องเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย โดย ณ สิ้นปี 2562 บริษัทฯ มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 3,055 ล้านบาท และวงเงินสินเชื่อซึ่งยังมิได้เบิกใช้จำนวน 14,213 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการทบทวนแผนการลงทุนทั้งหมดโดยคาดว่าจะชะลอและปรับแผนการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่และการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการเดิมออกไป โดยพิจารณาความจำเป็นในแต่ละโครงการ เพื่อลดภาระด้านการลงทุนในสินทรัพย์ (Capital Expenditure) ณ สิ้นปี 2562 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทอยู่ที่ 0.37 เท่า