โควิดพ่นพิษ“เซ็นทรัล” รื้อแผนลงทุน 2.2 หมื่นล.

28 มี.ค. 2563 | 13:26 น.

เซ่นพิษโควิด-19 “เซ็นทรัล” ประกาศรื้อแผนลงทุน 2.2 หมื่นล้าน จ่อทบทวนแผนงานเดิม หลังมาตรการสั่งปิดห้างกระทบรายได้หลัก ยันบริหารงานบนความยั่งยืนพันธมิตรธุรกิจ ร้านค้า คู่ค้า และลูกค้า

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องแนวทางการการบริหารจัดการของบริษัทเพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 (COVID-19) เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา  

โดยยอมรับว่าการปิดให้บริการศูนย์การค้าบางแห่งชั่วคราวตามประกาศของทางภาครัฐ มีผลกระทบต่อธุรกิจให้เช่าและบริการในศูนย์การค้าและอาคารสำนักงาน ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 83% ของรายได้รวมในปี 2562 ปัจจุบันบริษัทได้ปิดให้บริการศูนย์การค้าชั่วคราวทั้งหมด 15 โครงการ

พร้อมระบุว่าขณะนี้บริษัทได้ทำการลดต้นทุนในด้านต่างๆเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งอยู่ระหว่างการทบทวนแผนการลงทุนทั้งหมดโดยคาดว่าจะชะลอและปรับแผนการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่และการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการเดิมออกไป

วัลยา จิราธิวัฒน์

โดยก่อนหน้าเมื่อเดือนตุลาคมปี 2562 ที่ผ่านมา นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ร่วมกันแถลงข่าวแผนการลงทุนของบริษัทภายใต้แผน ‘สร้างงาน สร้างเมือง สร้างประเทศ เป็น Center of Life ของทุกจังหวัด’ โดยจะใช้เงินลงทุน. 22,000 ล้านบาท ภายในปี พ.ศ. 2565 ตั้งเป้าเสริมภาครัฐบุกเบิกเมืองเศรษฐกิจใหม่ และปลุกปั้นย่าน new urbanized district สำคัญของกรุงเทพฯ

โดยล่าสุดทาง CPN ได้ชี้แจงว่าบริษัทยังมีแผนในการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายจากสถานการณ์ปัจจุบันที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจนั้น บริษัทได้เตรียมแผนการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายการดำเนินงานต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อรายได้และความสามารถในการทำกำไร โดยปรับลดค่าใช้จ่ายแปรผัน (Variable Expense)

โควิดพ่นพิษ“เซ็นทรัล” รื้อแผนลงทุน 2.2 หมื่นล.

พร้อมกันนี้ยังอยู่ระหว่างการทบทวนแผนการลงทุนทั้งหมดโดยคาดว่าจะชะลอและปรับแผนการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่และการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการเดิมออกไป โดยพิจารณาความจำเป็นในแต่ละโครงการ เพื่อลดภาระด้านการลงทุนในสินทรัพย์ (Capital Expenditure) ณ สิ้นปี 2562 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทอยู่ที่ 0.37 เท่า ซึ่งยังคงอยู่ในระดับเป้าหมายภายในของ บริษัทฯ ที่ 1เท่าและตํ่ากว่าเงื่อนไขของเงินกู้และหุ้นกู้ที่ระดับ 1.75 เท่า และมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี

โควิดพ่นพิษ“เซ็นทรัล” รื้อแผนลงทุน 2.2 หมื่นล.

อย่างไรก็ดี บริษัทสามารถกู้เงินระยะสั้นจากสถาบันการเงินเพื่อรองรับความต้องการของสภาพคล่องในสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างเพียงพอ บริษัทได้ทำการวิเคราะห์สถานการณ์ (Scenario Analysis) ภายใต้สมมติฐานที่หลากหลายตามสถานการณ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทั้งในกรณีที่ดีขึ้นและแย่ลงโดยได้ทำการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ในเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าบริษัทยังสามารถรักษาสถานะทางการเงินให้เป็นไปตามเงื่อนไขของเงินกู้และหุ้นกู้ได้

สำหรับการวิเคราะห์และทดสอบอาจมีการทบทวนต่อไปจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วในอนาคตอันใกล้บริษัทตระหนักถึงสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้มีส่วนได้เสียทุกรายเป็นสิ่งสำคัญโดยยังคงไว้ซึ่งการเป็นบริษัทคำนึงถึงการตอบแทนและดูแลเอาใจใส่สังคม เพื่อรักษาความยั่งยืนของพันธมิตรธุรกิจ ร้านค้า คู่ค้า และลูกค้าในวันนี้และในวันข้างหน้าและพยายามบริหารจัดการธุรกิจอย่างระมัดระวังรอบคอบให้ผ่านพ้นสถานการณ์ครั้งนี้อย่างดีที่สุด