ไวรัสกระชับมิตร จีน-สหรัฐฯร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19

28 มี.ค. 2563 | 06:54 น.

 

หลังจากที่มีความขัดแย้งกันจากการทำสงครามการค้าเมื่อปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกาได้ต่อสายสนทนาทางโทรศัพท์ วานนี้ (27 มี.ค.) ตกลงที่จะให้ความร่วมมือกันในการต่อสู้กับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในสหรัฐฯ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่นิวยอร์ค

 

ทั้งนี้ ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ยังพุ่งไม่หยุดสู่ระดับ 100,717 คนแล้ว ( ณ 27 มี.ค.จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์) เป็นการเพิ่มขึ้นราว 15,000 คนภายในเวลา 24 ชั่วโมง ส่วนยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,544 คน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เปิดเผยภายหลังการสนทนาว่า จีนเข้าใจดีถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากของสหรัฐฯเกี่ยวกับโควิด-19 และพร้อมยืนเคียงข้างเพื่อช่วยเหลือสหรัฐฯอย่างเต็มกำลัง ขณะเดียวกัน ก็ได้เรียกร้องให้สหรัฐฯเร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกันหลังจากที่มีความขัดแย้งมาตลอดจากการทำสงครามการค้าเมื่อปีที่ผ่านมา

 

ผู้นำจีนให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกันทั้งในด้านการควบคุมโรคระบาดและประเด็นอื่น ๆ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์โดยปราศจากข้อขัดแย้งหรือการเผชิญหน้า และต้องเคารพซึ่งกันและกัน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายเป็นสำคัญ “จีนหวังว่าสหรัฐฯจะใช้มาตรการที่เข้มข้นในการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของชาวจีนที่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากในสหรัฐฯ รวมถึงนักเรียนชาวจีนทุกคนด้วย”

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เขาชื่นชมมุมมองและข้อเสนอของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงที่แถลงร่วมกับผู้นำอื่นๆในการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 นัดพิเศษเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ที่มีขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำสหรัฐฯมีท่าทีกับจีนที่อ่อนลง โดยเขากล่าวว่า ประสบการณ์ของจีนในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากสำหรับตัวเขา เป็นที่สังเกตว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้เรียกไวรัส “โควิด-19” ว่า “ไวรัสจีน” อีกต่อไป นอกจากนี้ เขายังย้ำว่า จะใช้ความพยายามส่วนตัวเท่าที่มีอยู่เพื่อสร้างความมั่นใจว่า สหรัฐฯและจีนจะสามารถขจัดอุปสรรคต่างๆ และมุ่งเน้นสร้างความร่วมมือกันเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

 

ทรัมป์ยังกล่าวขอบคุณจีนที่มอบเวชภัณฑ์ให้สหรัฐฯไว้ใช้ต่อสู้กับโรคระบาด และแสดงความพร้อมที่จะแปลกเปลี่ยนด้านการแพทย์และสาธารณสุขระหว่างกัน ทั้งจีนและสหรัฐฯ ยังจะร่วมมือกันวิจัยและพัฒนายาต้านโรคระบาดที่มีประสิทธิภาพด้วยกันต่อไปในอนาคต