แบงก์แม่อัดสภาพคล่องช่วยบลจ.

 ผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19)  ได้ส่งผลพวงปัญหาสภาพคล่องระบบการเงินทั่วโลก  ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้ออกมาตรการเสริมสภาพคล่องกับกองทุนเปิดตราสารหนี้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องแก่กองทุนรวม ขณะที่ ความกังวลของผู้ถือหน่วยลงทุนได้สร้างแรงกดดันต่อมูลค่าทำให้ 4กองทุน คือ  กองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน ,กองทุนเปิดทหารไทย ธนธนไพบูลย์,กองทุนเปิดทหารไทยธนพลัส และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพศาล และทางบลจ.ทหารไทยอิสท์สปริงจึงประกาศปิด 4กองทุนดังกล่าวเพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยที่ยังคงอยู่และรักษามูลค่าสินทรัพย์กับผู้ลงทุน

    นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างสำรวจความต้องการสภาพคล่องผู้ถือหน่วยลงทุนดังกล่าว เพื่อรวบรวมจำนวนความต้องการเงินหมุนเวียนระยะสั้น ระหว่างที่บลจ.อีสท์สปริงทยอยขายตราสารต่างๆ เพื่อนำเงินคืนแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน  ซึ่งธนาคารพร้อมจะช่วยเสริมสภาพคล่องในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ กับผู้ถือหน่วยลงทุนทั้ง 4กองทุนที่ธนาคารเป็นตัวแทนจำหน่ายในสัดส่วน 30% อย่างไรก็ตาม กรณีผู้ถือหน่วยลงทุนอีก 70%ที่จำหน่ายผ่านตัวแทนอื่นสามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายเพื่อขอวงเงินสภาพคล่องระยะสั้นเช่นเดียวกับทีเอ็มบีได้ 
    “ ส่วนใหญ่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่เจ้าหน้าที่ของทีเอ็มบีโทรศัพท์สอบถามก็ไม่ได้เดือดร้อนเงินเพียงแต่บางคนร้อนใจ เห็นได้จากส่วนที่ขายนั้นก็มีเงินไหลเข้ามาฝากกับธนาคารบ้างก็ได้รับดอกเบี้ยน้อยหรือไม่ได้ดอกเบี้ยหรือบัญชีเงินฝากTMB NO FIX และกองทุนตราสารหนี้รัฐบาลซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ แต่กรณีที่ลูกค้าต้องการเงินกู้เราก็พร้อมจะจัดโปรแกรมช่วยเหลือ”

ส่วนตัวยืนยันว่า 4กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่มีผลตอบแทนดีและมีความเสี่ยงต่ำ ส่วนใหญ่เป็นการพักเงินของคนมีเงินเย็นและเป็นการลงทุนในตรสารและเงินฝากที่มีคุณภาพดีโดยเงินลงทุนเหล่านั้นกระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งเมื่อเกิดการเทขายก้อนใหญ่และต้องการรับเงินคืนเร็วยิ่งเร่งกดดันมูลค่า ดังนั้นทางผู้จัดการกองทุนจึงตัดสินใจปิดกองทุนเพื่อทำให้คนถือหน่วยที่ยังอยู่ไม่ถูกกระทบด้วย  ซึ่งระหว่างนี้ทางผู้เชี่ยวชาญจากสิงคโปร์กำลังศึกษาแนวทางการขายสินทรัพย์ไม่ให้เสียมูลค่าและให้ได้เงินเร็วโดยระหว่างนี้ผู้ถือหน่วยที่ต้องการสภาพคล่องทางทีเอ็มบีพร้อมจะอำนวยความสะดวก
 

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า  กสิกรไทยมีความพร้อมให้การสนับสนุนมาตรการของธปท. ด้วยการเพิ่มช่องทางให้บลจ.กสิกรไทยสามารถกู้ยืมเงิน โดยนำหลักทรัพย์ที่ลงทุนมาทำธุรกรรมการขายโดยมีสัญญาซื้อคืนในนามกองทุนรวมเพื่อเสริมศักยภาพในการบริหารสภาพคล่องของกองทุนมากขึนเพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันบลจ.กสิกรไทยมีการกระจายการลงทุนทั้เงินฝากและตราสารหนี้หลากหลายประเภททั้งพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้เอกชนที่มีความมั่นคงสูงส่วนใหญ่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Aขึ้นไป และการลงทุนในต่างประเทศเกือบทั้งหมดจะเป็นการลงทุนในเงินฝากของธนาคารขนาดใหญ่ซึ่งมีเครดิตดี 
เช่นเดียวกับ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ที่พร้อมสนับสนุนมาตรการของธปท.ในการเสริมสภาพคล่องให้แก่กองทุนรวมตราสารหนี้ผ่านธนาคารพาณิชย์ ซึ่ง กองทุนรวมตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนเปิดทุกกองทุนของบลจ.กรุงศรี มีคุณสมบัติอยู่ในเกณฑ์ของมาตรการนี้ทุกประการ  เพราะเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี และผู้จัดการกองทุนได้มีการประเมินสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับความผันผวน พร้อมการบริหารสภาพคล่องให้มีเพียงพอต่อการไถ่ถอนหน่วยลงทุนมาโดยตลอด   จึงขอให้ความมั่นใจกับผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนรวมตราสารหนี้ของบลจ.กรุงศรี และยังเป็นทางเลือกของผู้ลงทุนวางใจได้