“ศอฉ.โควิด”สั่งคุมสต็อกเวชภัณฑ์ ตั้ง "ทีมพิเศษ" แก้ปัญหาหน้ากาก

27 มี.ค. 2563 | 06:21 น.

ที่ประชุม “ศอฉ.โควิด” มีมติให้สธ.คุมเข้ม "สต็อกเวชภัณฑ์" ทั้งหมด และให้พณ.ตั้ง "ทีมพิเศษ" แก้ปัญหาหน้ากากอนามัย


วันที่ 27 มีนาคม เวลา 12.00 น. นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด -19 (ศบค.) แถลงผลการประชุมศูนย์ศบค. ว่า นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้รายงานและลงรายละเอียดเรื่องหน้ากากอนามัย โดยปลัดพณ.เสนอให้พิจารณา 3 เรื่อง 1.ขอให้แต่งตั้งเพื่อยกระดับเป็นศูนย์บริหารจัดการหน้ากาอนามัยระดับชาติ 2.ตั้งอนุกรรมการกำหนดราคากลางและเวชภัณฑ์ระดับประเทศ เพราะถือเป็นยุทโธปกรณ์ในการต่อสู้กับเชื้อโรค 3.ตั้งอนุกรรมการพิจารณาการอนุญาตส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งหน้ากากอนามัย เพื่อแก้ปัญหาที่มีการรับจ้างแต่ติดปัญหาลิขสิทธิ์ที่ต้องดูรายละเอียดสัญญา แต่ทว่ามีความต้องการทั้งในและต่างประเทศ จึงต้องพิจาณาว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เป็นธรรมและเป็นประโยชน์กับคนในชาติ 

"เรื่องนี้นายกฯเห็นด้วย ที่ให้ดูข้อกฎหมาย และต้องให้ความเป็นธรรม และคิดถึงประชาชนของเราในการใช้สิ่งเหล่านี้อยู่ด้วย”

“ศอฉ.โควิด”สั่งคุมสต็อกเวชภัณฑ์ ตั้ง "ทีมพิเศษ" แก้ปัญหาหน้ากาก

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้กระทรวงสาธารณสุขดูแลเรื่องระบบการดูแลสต็อกเวชภัณฑ์ที่ใช่ยาและไม่ใช่ยา ขอให้มีการให้ความสำคัญกับยุทโธปกรณ์ที่ต้องนำเข้ามา การผลิตต้องใช้ให้เพียงพอ และจึงขอให้นำเสนอรายละเอียดให้ชัดเจนในอนาคต โดยงบกลางจำนวน 1.5 พันล้านบาท ที่ครม.อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุขไปแล้ว ต้องเป็นศูนย์กลางในการจัดซื้อและกระจายอุปกรณ์ไปทั่วประเทศให้โรงพยาบาลอื่นๆที่รอรับ ขอให้รวมเป็นศูนย์ที่เดียว เพื่อไปในทิศทางเดียวกัน

โฆษกฯ เปิดเผยด้วยว่า ในที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข ยังได้รายงานถึงชุดตรวจห้องปฏิบัติการที่มีความต้องการสูงมาก นายกรัฐมนตรีจึงเคยอนุมัติให้เอกชนเข้ามาจำหน่ายชุดตรวจต่างๆที่เรียกว่า PCR แบบสอดเข้าไปในโพรงจมูก ซึ่งมีบริษัทนำเสนอเพิ่มอีก 1 บริษัท และชุดตรวจแบบแรพพิดเทสเพิ่มขึ้น 3 บริษัท  จึงให้ความมั่นมั่นใจได้ว่าชุดการตรวจเพียงพอสำหรับประชาชน