รุมจวก“อนุทิน”พูดบั่นทอนกำลังใจ“หมอ”

26 มี.ค. 2563 | 11:11 น.

“ชาวเน็ต-บุคลากรทางการแพทย์”ไม่พอใจ“อนุทิน” หลังตำหนิหมอไม่ระวังจนติดเชื้อโควิด-19 ต้องเป็นบุคคลตัวอย่าง-เซฟตัวเอง “หมอ”โพสต์ตัดพ้ออยากแขวนเสื้อกาวน์แล้วไปนอน หลังพูดบั่นทอนกำลังใจ

 

วันนี้(26 มี.ค.63) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งถึงแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่จนติดโรคโควิด-19 ว่า เท่าที่ได้รับรายงานมา การติดเชื้อแพทย์ที่ติดเชื้อเพราะการปฏิบัติหน้าที่จากโรคโควิด-19 ยังไม่มี 

“นี่เป็นสิ่งที่ต้องไปหวดกัน เรื่องนี้พวกเราก็ไม่พอใจ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่เฝ้าระวังตัวเอง ซึ่งเราก็ต้องเป็นบุคคลตัวอย่าง ต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เราต้องเซฟตัวเองให้ได้มากที่สุด ก็ขอให้บรรดาแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกคน รักษาตัวเองให้เป็นอย่างดีนะครับ เราต้องเป็นตัวอย่าง เราต้องเป็นกำลังใจ และเราจะต้องทำตัวเราเองให้ปลอดภัย ที่จะให้การรักษาคนป่วยอย่างสุดความสามารถ บุคลากรทางแพทย์ที่ป่วยจากไวรัสโคโรนามา เราสั่งให้เขาแยกตัวเองไว้แล้ว แต่ก็ไม่มีคนอาการหนัก หวังว่าภายใน 5-7 วันถึงหายดี และกลับมาทำงานตามปกติ คนที่อยู่รอบข้างสอบสวนโรคกันหมดแล้ว” นายอนุทิน ระบุ
 

ขณะเดียวกัน หลังคำพูดของนายอนุทิน ได้เผยแพร่ออกไป ได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวเน็ต ซึ่งต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์พร้อมติด #อนุทิน จนติดลมบนเทรนทวิตเตอร์เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย รวมทั้งได้มีบุคลากรทางการแพทย์ออกมาโพสต์ตัดพ้อกับคำพูดของรมว.สาธารณสุข ด้วย

                                                                รุมจวก“อนุทิน”พูดบั่นทอนกำลังใจ“หมอ”


 ในเวลาต่อมา นายอนุทิน ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ว่า เป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด เพราะที่ผ่านมาเราสนับสนุนการทำงานของแพทย์เต็มที่ เรามีมาตรการระมัดระวังอยู่ตลอด ไม่ใช่ไม่มีมาตรการป้องกัน หรือลดความเสี่ยงให้บุคลากรทางการแพทย์


 

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับเรื่องแพทย์ที่ติดเชื้อจากการทำงานนั้น ไม่ได้มีเจตนาจะตำหนิ หรือต่อว่า เพราะรู้ดีว่าทุกคนทำงานหนัก และเสี่ยงชีวิตอยู่แล้ว แต่ที่ตำหนิ คือบุคลากรทางการแพทย์ที่ไปติดเชื้อมาจากการไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงแล้วติดเชื้อ แต่ยังมาทำงาน ทำให้เจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆ ต้องถูกกักตัว เสียกำลัง ขาดบุคลากรที่จะมาทำงานให้ประชาชนไปด้วย และได้เตือนบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนว่า ในฐานะที่เป็นข้าราชการสาธารณสุข ต้องปฏิบัติเป็นตัวอย่างแก่ประชาชน เพราะมาตรการที่ออกไปให้ประชาชนปฏิบัตินั้น เป็นมาตรการที่สาธารณสุข เป็นผู้กำหนดทั้งนั้น ซึ่งประเด็นที่ต้องการสื่อสารมีเพียงเท่านี้ ไม่มีเจตนาที่จะตำหนิแพทย์ หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนักอยู่ในขณะนี้ มีแต่ให้กำลังใจกันทุกวัน แต่หากการสื่อสารทำให้เข้าใจผิด ก็ขอชี้แจงให้ทราบตามนี้