กรอ.พาณิชย์ย้ำสินค้ามีเพียงพอ ช่วงไวรัสโคโรนาระบาด

25 มี.ค. 2563 | 08:12 น.

พาณิชย์หารือเอกชนดูแลสินค้าอุปโภคบริโภคช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ย้ำสินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน วอนอย่ากักตุน  ส่วนไข่ไก่ยังมีเพียงพอต่อการบริโภคทั้งประเทศ โดยมีผลผิต40ล้านฟองต่อวัน ชี้ราคาที่ปรับขึ้นเป็นแค่ช่วงระยะสั้นเท่านั้น

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ​ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ ร่วมประชุม​คณะกรรมการ​ร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์​ หรือ กรอ.พาณิชย์ ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  สมาคมธนาคารไทย  สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาพันธ์โลจิสติกไทย  สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย  สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย  สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย  สมาคมผู้ผลิตและแปรรูปสุกร-ไก่ เพื่อการส่งออก  สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน)   สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย และสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย

 

ทั้งนี้เพื่อหารือสถานการณ์รับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และกำหนดแนวทางการรับมือในเรื่องการดูแลสินค้าอุโภคบริโภคของประชาชนให้มีเพียงพอ​ในประเทศ​ เช่น ข้าว ไก่ ไข่ หมู น้ำมันพืช อาหาร​สำเร็จ​รูป น้ำตาลทราย ยา ผักผลไม้​ และวัตถุดิบ​ที่เกี่ยวข้อง เช่น มัน ข้าวโพด เหล็กทำกระป๋อง ฯลฯ เพื่อกำหนดมาตรการ​กำกับดูแลไม่ให้เกิดการกักตุน​หรือขาดตลาด โดย​ที่ประชุม​ให้ความสำคัญ​กับการเร่งจัดหาหน้ากากอนามัย​ทางการแพทย์​ และหน้ากากทางเลือก ที่จำเป็น​ต้องเร่งนำเข้าจากต่างประเทศ​ ซึ่งติดปัญหา​ว่าภาคเอกชนชะลอนำเข้าเพราะหน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมราคาจำหน่าย

กรอ.พาณิชย์ย้ำสินค้ามีเพียงพอ  ช่วงไวรัสโคโรนาระบาด


 

 

ด้านกรมการค้าภายใน​ยืนยันว่าหน้ากากอนามัย​ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ​สามารถจำหน่ายตามราคาต้นทุนที่นำเข้ามาและบวกเพิ่มกำไรได้ และขณะนี้กลุ่มผู้ผลิต​สิ่งทอยังปรับตัวหันมาผลิต​หน้ากากอนามัย​ผ้า อีกทั้ง กลุ่ม​ผู้ผลิต​เครื่อง​สำอางก็ปรับตัวหันมาผลิต​แอลกอฮอล์​ และเจลล้างมือ ซึ่งสินค้ากำลังทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าประชาชนจะเข้าถึงสินค้าจำเป็น​ได้มากขึ้น ล่าสุด ที่ประชุม​ได้แบ่งกลุ่มสินค้าออกเป็น 7 กลุ่ม โดยรองนายกฯ จุรินทร์​มอบหมายให้แต่ละกรมร่วมเป็นเจ้าภาพตั้งศูนย์​บัญชาการ หรือ วอร์รูม​กำหนดมาตรการ​กำกับดูแลสินค้าทั้งระบบ ได้แก่ 1.อาหารสำเร็จรูป ผู้รับผิดชอบได้แก่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 2.สินค้าอาหารสด ผู้รับผิดชอบได้แก่ กรมการค้าภายใน

กรอ.พาณิชย์ย้ำสินค้ามีเพียงพอ  ช่วงไวรัสโคโรนาระบาด

3.ข้าว ผู้รับผิดชอบได้แก่ กรมการค้าต่างประเทศ​ 4.ผลไม้ ผู้รับผิดชอบได้แก่ กรมการค้าภายใน​และกรมส่งเสริมการค้าระหว่าง​ประเทศ​5.วัตถุดิบ​อาหารสัตว์ ผู้รับผิดชอบได้แก่ กรมการค้าต่างประเทศ​ 6. Logistics ผู้รับผิดชอบได้แก่ กรมพัฒนา​ธุรกิจ​การค้า และสำนักยุทธศาสตร์​การค้า 7.ยาและเครื่องทือแพทย์ ผู้รับผิดชอบได้แก่ กรมพัฒนา​ธุรกิจ​การค้า  ทั้งนี้ วอร์รูม​ทุกกลุ่มจะดำเ​นิ​นมาตรการ​ดูแลสถานการณ์​รวมทั้งแก้ไขปัญหา​อุปสรรค​ต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว

กรอ.พาณิชย์ย้ำสินค้ามีเพียงพอ  ช่วงไวรัสโคโรนาระบาด

 

ด้านนายมงคล พิพัฒน์สัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และส่งออกไข่ไก่ กล่าวว่า จากที่มีกระแสข่าวว่า ไข่ไก่ขาดแคลน จนเริ่มแพงขึ้น และมีสัญญาณที่จะขึ้นราคาอีกแผงละ 6 บาทในสัปดาห์หน้า เนื่องจากไข่ไก่ในประเทศเริ่มขาดตลาด เพราะมีการกักตุนส่งออกไปสิงคโปร์ หลังจากมีการปิดประเทศมาเลเซีย ว่า ไม่เป็นความจริงขณะนี้ผลผลิตไข่ไก่ของประเทศไทยยังออกมาเป็นปกติวันละกว่า 40 ล้านฟอง ราคาหน้าฟาร์มไข่ไก่คละอยู่ที่ฟองละ 2.80 บาทถือว่าเป็นราคาที่ทำให้เกษตรกรอยู่ได้โดยมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 2.60 บาทถึง 2.70 บาทจากที่เคยขาดทุนมาตลอดเป็นระยะเวลาหลายปี และแม้ว่าในขณะนี้ประชาชนจะมีความต้องการบริโภคไข่ไก่มากขึ้น 3-5 เท่าจากภาวะปรกติแต่เกษตรกร ผู้เลี้ยงไก่ไข่ยืนยันว่าจะไม่ช่วยโอกาสปรับขึ้นราคาไข่ไก่หน้าฟาร์ม โดยตนเองในฐานะนายกสมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไทยไข่ไก่ รวมทั้งสมาคมพันธมิตรอีก 3 สมาคมคือ คือสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ สมาคมผู้เลี้ยงไข่ไก่ภาคใต้ และสมาคมผู้เลี้ยงไก่ จ. สุพรรณบุรี ซึ่งมีสมาชิกกระจายอยู่ทั่วประเทศคิดเป็น 90% ของผู้เลี้ยงไก่ไข่ทั้งหมดในประเทศยืนยันตรงกันว่าไม่มีการโก่งราคาขายไข่จากหน้าฟาร์มแต่ละฟาร์มยังขายไข่ไก่ในราคาประมาณ 2.80 บาทต่อฟอง

กรอ.พาณิชย์ย้ำสินค้ามีเพียงพอ  ช่วงไวรัสโคโรนาระบาด

ที่มีข่าวออกมาว่าไข่ไก่จะขาดแคลน มีการกักตุนเพื่อโก่งราคาขาย และรอการส่งออกนั้นตนเองในฐานะนายกสมาคมและเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ไทยมายาวนานขอยืนยันว่าสิ่งที่พูดเลี้ยงไก่ไข่กลัวที่สุดคือการมีสต๊อกไข่เนื่องจากมีต้นทุนสูงใครเก็บได้ไม่นานก็ต้องระบายออกจึงไม่คุ้มที่จะเก็บไข่ไว้เพื่อทำกำไรในภายหลังเพราะมีแต่จะขาดทุน ดังนั้นข่าวที่ออกมาบอกว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ใครตุนไข่ไว้เพื่อขายในราคาที่สูงในภายหลังจึงไม่เป็นความจริง

 

ส่วนที่มีผู้ร้องเรียนมาว่าใครไก่ปรับราคาแพงขึ้นจากปกตินั้นน่าจะเกิดจากการโก่งราคาของร้านค้าที่ช่วยโอกาสเอาเปรียบประชาชนในช่วงที่มีการระบาดของโควิด -19 ด้วยการอ้างว่ารับใครมาจากผู้เลี้ยงแพงซึ่งยืนยันว่าไม่เป็นความจริงและประชาชนหากพบการเอาเปรียบหรือตั้งราคาขายสูงเกินจริงก็ควรจะแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบดำเนินคดีตามกฏหมายไม่ควรสมยอมซื้อขายกับคนที่เอาเปรียบ ซึ่งในส่วนของเกษตรกรเองนั้นกรมการค้าภายในโดยกระทรวงพาณิชย์ก็ได้ขอความร่วมมือในการตรึงราคาขายไข่ในราคาหน้าฟาร์ม 2.80 บาทนี้ไปก่อนเพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมประชาชนในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19

กรอ.พาณิชย์ย้ำสินค้ามีเพียงพอ  ช่วงไวรัสโคโรนาระบาด

ส่วนการส่งออกใข่ไก่ของไทยนั้นขอชี้แจงว่าส่งออกไม่ถึง 3% ของปริมาณไข่ไก่ที่ออกมาในทั้งปีซึ่งเป็นการส่งออกตามคำสั่งซื้อปกติเพื่อรักษาสมดุลปริมาณไข่ไก่ไม่ให้ล้นตลาดในเมืองไทยเท่านั้น ไม่ได้เป็นการส่งออกเพื่อทำกำไรอย่างที่บางคนเข้าใจ