“อลงกรณ์” เตือนตื่นรู้ตื่นตัวแต่อย่าตื่นตระหนกโควิด

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ผมไม่ใช่หมอแต่การวิเคราะห์ใดๆถ้าฐานข้อมูลที่นำมาใช้คลาดเคลื่อนตั้งแต่ต้นหรือขาดข้อมูลฐานสำคัญแบบจำลองก็ประเมินผลผิดพลาดมากครับ ผมไม่คิดว่าเราจะมีการแพร่ระบาดเหมือนอิตาลี เพราะอะไรหรือ?เคยฉุกคิดกันหรือไม่ว่า ทำไมประเทศไทยจึงมีผู้เสียชีวิตเพียง1คนและเพิ่งจะมีอีกรายอายุ70 ปี เสียชีวิตเมื่อวันวานที่ผ่านมา 3 เดือนยังไม่ถึง10คน ทั้งที่เราเป็นประเทศที่มีกรณีพบผู้ติดเชื้อต่อจากจีนตั้งแต่ต้นมกราคมจนถึงปลายมีนาคมและเป็นประเทศเปิดที่มีนักท่องเที่ยว 40 ล้านคนเข้ามาในประเทศของเราและมีชาวต่างชาติจากยุโรปจากแอฟริกาจากตะวันออกกลางจากรัสเซียจากเอเซียพำนักอาศัยหลายล้านคนในบ้านเมืองของเรารวมทั้งชาวอิตาลี

 “เหตุผลคือ ประเทศไทยอยู่ในเขตร้อนชื้นTropical Zoneคนในประเทศไทยเผชิญไวรัสนานาชนิดตลอดเวลาทำให้มีการสร้างภูมิคุ้มกันเป็นพื้นฐานชีวิตในร่างกายมาโดยตลอดไม่ว่าคนไทยหรือต่างชาติที่มาอยู่ในประเทศไทย”

ส่วนประเทศในภูมิภาคอื่นๆที่มีอัตราการตายสูงมาก เช่น ในยุโรปกรณีอิตาลีและเยอรมันอยู่ในโซนอื่นที่ประขาชนไม่มีภูมิคุ้มกันพวกโรคหวัดเหมือนบ้านเรา แม้จะเป็นประเทศพัฒนาและเจริญในทุกด้านกว่าบ้านเรา อีกประการคือเรามีระบบสาธารณสุขดีที่สุดประเทศหนึ่งในโลกและมีคนไทยจิตอาสามากมายรวมทั้งมีอสม.ทุกหมู่บ้านและชุมชนโดยเฉพาะแพทย์พยาบาลและบุคคลากรสาธารสุขที่ทุ่มเทเสียสละในทุกสถานการณ์

“โรคระบาด” จะเป็นโรคหวัดหรือโรคปอดอักเสบเพราะไวรัสจะไม่สามารถทำร้ายคนที่มีภูมิคุ้มกันหรือมีปฏิกริยาในการสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วเมื่อมีเชื้อแพร่เข้าร่างกายได้มากนักอาจเป็นไข้แต่อัตราตายจะต่ำมาก เช่นกรณีประเทศไทยของเรา ที่มีอัตราเสียชีวิตไม่กี่รายน้อยกว่าอุบัติเหตุทางท้องถนนเสียอีก

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า อยากฝากให้คิดจะถูกผิดไม่ทราบเพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแต่ข้อเท็จจริงเป็นผลลัพธ์ที่พิสูจน์การกำหนดมาตรการของรัฐและความตื่นตระหนกขึ้นกับความเข้าใจในความรู้และข้อมูล

ป.ล ผมซี่รี่ย์ 6 แล้วมีประชุมเกือบทุกวันและเดินทางทุกสัปดาห์ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ยังแข็งแรงดีและพยายามล้างมือด้วยเจลตอนนี้เปลี่ยนเป็นสบู่บ่อยๆ ใส่หน้ากากผ้าที่ซักได้และใส่เฉพาะอยู่ในจุดเสี่ยงเท่านั้นเพราะยิ่งใส่ยิ่งเสี่ยงเนื่องจากมือเราคอยแต่จะไปขยับหน้ากากอนามัยเวลาดื่มน้ำทานข้าวหรือเวลารำคาญ