นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการพัฒนาระบบตั๋วร่วม(บัตรแมงมุม) ในส่วนของแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ยังอยู่ระหว่างการทดสอบระบบหัวอ่านให้สามารถอ่านข้อมูลบัตรรถไฟฟ้าระบบอื่นได้ ซึ่งจากการทดสอบระบบครั้งล่าสุดในห้องปฏิบัติการ จำนวน 3 ครั้งเมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า เกือบจะประสบความสำเร็จ ยังติดปัญหาด้านเทคนิคอีกเล็กน้อยที่ต้องแก้ไข โดยได้เน้นย้ำ และเร่งรัดบริษัทเอกชนที่รับจ้างเข้ามาพัฒนาระบบแล้วว่าต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการยกเลิกสัญญาจ้างกับบริษัทเอกชน เพราะทางบริษัทเอกชนรับปากแล้วว่าจะพัฒนาระบบหัวอ่านให้สามารถรองรับได้ทันกับแผนที่กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าหมายว่าจะให้สามารถใช้บริการตั๋วร่วมกันระหว่าง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้า MRT และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้า BTS ได้ภายในเดือน มิ.ย.63 อย่างไรก็ตามการดำเนินงานของบริษัทเอกชนถือว่ามีความล่าช้ามาก โดยเสร็จล่าช้ากว่าสัญญามาแล้วเกือบ 1 ปี
“แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ไม่เคยนิ่งนอนใจ พยายามเร่งรัดการดำเนินงานมาตลอด และก็มั่นใจว่าจะทำได้สำเร็จ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการใช้บริการรถไฟฟ้าในทุกระบบ โดยใช้บัตรเพียงใบเดียวในการเดินทาง แต่เมื่อบริษัทเอกชนทำงานผิดพลาดจากสัญญาที่กำหนด ก็ต้องดำเนินการคำนวณค่าปรับการทำงานล่าช้าของเอกชน โดยจะพิจารณาข้อเท็จจริง และปฏิบัติตามระเบียบของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เบื้องต้นจะถูกปรับประมาณ 10% ของค่าว่าจ้าง”
อย่างไรก็ตามแม้การพัฒนาระบบหัวอ่านจะเสร็จทันในเดือน มิ.ย.นี้ และผู้ถือบัตรโดยสารรวมกว่า 14.6 ล้านใบ จะสามารถใช้บัตรรถไฟฟ้าข้ามระบบกันได้ แต่ทางบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ยังคงต้องดำเนินการปรับการทำงานล่าช้าของเอกชนประมาณ 10% ของเงินที่ได้ว่าจ้าง 105 ล้านบาทด้วย หรือคิดเป็นประมาณ 10.5 ล้านบาท