“รับเร็ว-รุกแรง” รัสเซียเล่นใหญ่สกัดโควิด-19

22 มี.ค. 2563 | 02:19 น.

คอลัมน์หลังกล้องไซบีเรีย : “รับเร็ว-รุกแรง” รัสเซียเล่นใหญ่สะกัดลโควิด-19

 

รัสเซียสัปดาห์นี้สภาพไม่แตกต่างกับหลายประเทศทั่วโลกเท่าไหร่นัก ยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว จาก 63 รายในต้นสัปดาห์ (16 มี.ค.) กลายเป็นมากกว่า 200 คนภายในไม่กี่วัน กระจายทั่วประเทศทั้งในเมืองหลวง เมืองท่องเที่ยวหลักไปจนถึงเขตตะวันออกไกล ถือเป็นตัวเลขที่ก้าวกระโดดกว่าการคาดการณ์ ร้อนถึงรัฐบาลต้องรีบปรับแผนรับมือกันวุ่น

แม้ว่ารัสเซียยังไม่เข้าข่ายประเทศกลุ่มเสี่ยงเหมือนหลายประเทศในยุโรป แต่ด้วยความที่บ้านใกล้เมืองเคียงก็ต้องหนาวๆ ร้อนๆ กันบ้าง จึงขอออกนโยบายที่ทั้ง “ฉับไว” และ “เล่นใหญ่” ไว้ก่อน เรามาดูกันว่าจนถึงตอนนี้รัฐบาลรัสเซียมีวิธีการรับมือการแพร่ระบาดอย่างไรบ้าง

สิ่งแรกที่นายกรัสเซียทำเมื่อเห็นยอดตัวเลขเพิ่มผิดปกติคือการประกาศ “ปิดประเทศ” จนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ทว่าขณะนี้ไม่ได้ปิดตายเลยเสียทีเดียว ชาวรัสเซียที่อยู่นอกประเทศยังสามารถเดินทางกลับเข้ามาได้ปกติ ส่วนชาวต่างชาติที่อยากเดินทางกลับบ้านของตัวเองสามารถทำได้อยู่เช่นกัน

“รับเร็ว-รุกแรง” รัสเซียเล่นใหญ่สกัดโควิด-19

ในเรื่องมาตรการการควบคุมคนเข้าออกประเทศ นับว่ารัสเซียตื่นตัวได้เร็วมากเมื่อเปรียบเทียบกับหลายประเทศ นับแต่มีข่าวการปะทุของโรคในเมืองอู่ฮั่นของจีนประกาศห้ามคนจีนเข้าประเทศทันทีตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การประกาศปิดประเทศครั้งนี้ แม้ไม่ได้เป็นประเทศสมาชิกอียู รัฐบาลก็เลือกปิดประเทศตามทันทีเพื่อหยุดการเคลื่อนย้ายของคน จำกัดวงการแพร่ระบาดให้ได้มากที่สุด

ในหลายเมืองประกาศยกการเฝ้าระวังเป็น “ระดับสูงสุด” เมืองใหญ่ที่มีคนเข้าออกมากอย่างกรุงมอสโกห้ามไม่ให้จัดกิจกรรมการแจ้ง ห้ามรวมกลุ่มกันชุมนุมมากกว่า 50 คน และให้โรงเรียนหยุดการเรียนการสอนแล้ว ส่วนคนทำงานอาจยังต้องออกมาทำงานอยู่บ้าง จึงงดให้คนขับรถออกตั๋วเดินทาง ลดความเสี่ยงการติดเชื้อจากการสัมผัส รวมทั้งมีการเสนอให้เพิ่มโบนัสให้แก่แพทย์ที่เป็นทัพหน้าดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ด้วย ส่วนกองทัพรัสเซียประกาศยกเลิกการเกณฑ์ทหารรอบฤดูใบไม้ผลิปีนี้ไปก่อน

จากการสืบประวัติผู้ติดเชื้อในรัสเซียรอบนี้ ส่วนมากคือผู้ที่เดินทางกลับมาจากอิตาลีหรือประเทศยุโรปอื่นที่กำลังเกิดการระบาดหนัก ดังนั้นใครที่กลับมาจากกลุ่มประเทศเกล่านี้จะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันหลังเดินทางเข้ามาในรัสเซีย ส่วนผู้ที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยจะมีเจ้าหน้าที่ไปคอยจับตาดูอาการอย่างใกล้ชิด

สถานการณ์โควิดในครั้งนี้ทำให้เกิดการกักตุนอาหารจนเกลี้ยงชั้นวางห้างสรรพสินค้าหลายประเทศ ที่รัสเซียห้างบางส่วนเริ่มมีผู้คนแห่ไปซื้อสินค้าตุนกลับบ้านแล้วแต่ไม่มากนัก ซึ่งสินค้ายอดนิยมหนีไม่พ้น “กระดาษทิชชู่” และ “บักวีต” เมล็ดพืชยอมนิยมที่ชาวหมีขาวมักกินเป็นอาหารหลักเสมือนข้าว

ด้านมหาวิทยาลัยทั่วประเทศประกาศปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนมาเป็นระบบออนไลน์อย่างฉับพลันอย่างไม่มีกำหนด พร้อมรณรงค์ให้นักเรียนนักศึกษากักตัวอยู่กับบ้าน ไม่เว้นแม้แต่มหาวิทยาลัยในเมืองที่ห่างไกลจากการแพร่ระบาดของไวรัส

ขณะเดียวกัน เมืองที่ห่างไกลจุดที่มีการระบาดใหญ่ เช่นในเมืองโนโวซิบิรสก์ใจกลางไซบีเรีย ประชาชนชาวรัสเซียตอนนี้ยังดูไม่ค่อยตื่นตัวกับภัยของไวรัสโควิด-19 เท่าไหร่นัก ผู้คนยังคงเดินทางไปมาเป็นปกติ ไปทำงานซื้อของเช่นทุกวัน แม้มีการรณรงค์ให้อยู่บ้านมากขึ้นและใช้ชีวิตแบบเว้นระยะกับสังคมมากขึ้นป้องกันการแพร่เชื้อ ชาวรัสเซียยังคงทักทายจับมือกันเช่นเดิม และมีเสียงบ่นจากการที่สถานที่บางแห่งเช่นฟิตเนสออกกำลังกายปิดใหบริการในช่วงนี้ ซ้ำการหาซื้อหน้ากากอนามัยที่นี่เป็นเรื่องยากมาก ไม่มีวางขายตามร้านขายยาทั่วไป จึงแทบไม่พบเห็นชาวเมืองสวมใส่หน้ากากบนท้องถนนเท่าไหร่นัก

การระบาดในรัสเซียตอนนี้ยังเป็นเพียงในระยะเริ่มต้นเท่านั้น อาจยังจินตนาการภาพกันไม่ออกว่าเจ้าโควิท-19จะโลดแล่นไปได้กว้างไกลแค่ไหนภายในประเทศที่กว้างใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ ใครที่วางแผนเที่ยวรัสเซีย 2-3 เดือนข้างหน้านี้อาจต้องทำใจเล็กน้อย เพราะมีความเป็นไปได้ว่าการแพร่กระจายอาจขยายวงกว้าง และรัฐบาลรัสเซียอาจตัดสินใจขยายกรอบเวลาการปิดประเทศไปอีกจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง
    

หลังกล้องไซบีเรีย
เรื่อง: ยลรดี ธุววงศ์  ภาพ: Kremlin.ru

** พบกับ คอลัมน์ “หลังกล้องไซบีเรีย” ทุกวันอาทิตย์ ทุกช่องทางออนไลน์ของ “ฐานเศรษฐกิจ" **
Bio นักเขียน : “ยลรดี ธุววงศ์” อดีตนักข่าวที่ผ่านสนามข่าวทั้งในและต่างประเทศ จากสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ และ Spring News ปัจจุบันเป็นนิสิตปริญญาโทอยู่ในส่วนที่หนาวเย็นที่สุดของประเทศรัสเซีย