พาณิชย์ ปรับแผนเจรจาการค้า หนีไวรัสโคโรนาเน้นประชุมทางไกล

20 มี.ค. 2563 | 06:45 น.

กรมเจรจาฯ ปรับแผนการเจรจาการค้า เตรียมใช้ระบบการประชุมทางไกลแทน หลังไวรัสโควิด-19 กระทบการประชุมการค้าระหว่างประเทศหลายเวที ทั้ง WTO อาเซียน เอเปค และอาร์เซ็ป

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคดรนาหรือโควิด-19 ส่งผลให้มีการเลื่อนการประชุมระหว่างประเทศ เช่น WTO อาเซียน เอเปค และอาร์เซ็ป เป็นต้น รวมถึงมีแนวโน้มว่าจะเลื่อนการประชุมในอีกหลายเวที กรมฯ จึงนำระบบการประชุมทางไกล หรือการประชุมเสมือนจริง มาใช้ในเวทีการประชุมระหว่างประเทศต่างๆ ทั้ง WTO อาร์เซ็ป รวมทั้งการประชุมหารือระหว่างไทยกับประเทศคู่ค้า เพื่อให้การทำงานไม่หยุดชะงักและสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย

นางอรมน กล่าวว่า นายโรเบอร์โต อาเซเวลโก ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) ประกาศระงับการจัดประชุมทั้งหมดที่สำนักงานใหญ่ WTO ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นการชั่วคราวจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2563 หลังพบบุคลากร WTO รายหนึ่งติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่าสมาชิก WTO 164 ประเทศ จะเห็นด้วยกับการเลื่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก (WTO Ministerial Conference) ครั้งที่ 12 ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 มิถุนายน 2563 ณ กรุงนูร์-ซุลตัน สาธารณรัฐคาซัดสถาน เช่นเดียวกับการประชุมต่างๆ ของอาเซียน ซึ่งเวียดนามประเทศเจ้าภาพในปีนี้ ได้เลื่อนการประชุมนัดสำคัญแล้ว โดยการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Council) ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 เมษายน 2563 ณ เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม จะเลื่อนไปจัดในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2563 แทน ขณะที่การประชุมสุดยอดอาเซียนของระดับผู้นำ (ASEAN Summit) ก็จะเลื่อนการประชุมเช่นกัน

พาณิชย์ ปรับแผนเจรจาการค้า  หนีไวรัสโคโรนาเน้นประชุมทางไกล

สำหรับการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซ็ป (RCEP) แม้สมาชิกหลายประเทศมีมาตรการห้ามเดินทางเข้า-ออกประเทศ แต่ทุกประเทศจะร่วมกันปรับแผนการทำงานเพื่อให้การเจรจาเดินหน้าต่อไป และสามารถลงนามความตกลงภายในปี 2563 ตามเป้าหมายเดิม เช่น จัดประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ระหว่างสมาชิก โดยจะเริ่มใช้กับการประชุมคณะกรรมการเจรจาอาร์เซ็ป (TNC RCEP) ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 23-27 มีนาคมนี้ ซึ่งเดิมกำหนดประชุมที่สำนักเลขาธิการอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เป็นเวทีแรก ส่วนการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่กำหนดจัดประชุมรัฐมนตรีการค้า และการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ในเดือนเมษายน 2563 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จะเลื่อนไปจัดในเดือนมิถุนายน 2563 แทน ทั้งนี้ เอเปคถือเป็นการประชุมใหญ่ที่มีสมาชิกในแถบเอเชียแปซิฟิกถึง 21 ประเทศ เช่น สหรัฐฯ แคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ฮ่องกง ไต้หวัน รัสเซีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เป็นต้น

 

“ความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยของบุคลากรกรมฯ รวมถึงผู้เข้าร่วมประชุม มีความสำคัญที่สุด ดังนั้น ระหว่างนี้จึงมีการนำเทคโนโลยีการประชุมทางไกลมาใช้ในเวทีที่สามารถทำได้ เช่น การประชุมทบทวนนโยบายการค้าของออสเตรเลีย การประชุมกลุ่มเจรจาเรื่องการอุดหนุนประมงของ WTO ที่จัดในรูปแบบการประชุมทางไกลเสมือนจริง (virtual meeting) ส่วนการประชุมใดที่ต้องระงับหรือเลื่อนออกไป ถือเป็นโอกาสที่นักเจรจาและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะได้ศึกษาและเตรียมข้อมูลให้รอบคอบ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าร่วมการประชุมที่อาจมีความเข้มข้นหรือบ่อยครั้งขึ้นเพื่อชดเชยกับช่วงเวลาที่หยุดชะงัก หลังจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสคลี่คลายลง” นางอรมน กล่าว