บิ๊กเนม ควักกระเป๋าซื้อหุ้นคืนเรียกเชื่อมั่น

20 มี.ค. 2563 | 06:55 น.

นำโดย 3 บิ๊กบจ. "นิติ โอสถานุเคราะห์" นักลงทุนวีไอ ควัก 1,234 ล้านบาท ซื้อหุ้น MINT 47.33 ล้านหุ้น , วิกรม กรมดิษฐ์  ไม่น้อยหน้าทุ่ม 676 ล้านบาท ซื้อหุ้น AMATA สัดส่วน 6.46% "เสี่ยกลาง" สารัชถ์ รัตนาวะดี  เท 198 ล้านบาท ช้อนหุ้น GULF 1.3 ล้านหุ้น

 

 บิ๊กเนม ควักกระเป๋าซื้อหุ้นคืนเรียกเชื่อมั่น

ต้นปีมาดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงถึง 533.76 จุด หรือ -33.79% สู่ระดับ1,046.08 จุด เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563  และเฉพาะครึ่งแรกเดือนมีนาคม (1- 16 มี.ค.63 ) ปรับลง 294  จุด หรือ - 21.96%  โดยเป็นการปรับลดลงเฉพาะวันที่12-13 มี.ค.ในแต่ละวันร่วงเกือบ 150 จุด  จนตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) ต้องหยุดการซื้อขายชั่วคราว (เซอร์กิต เบรกเกอร์)ที่ดัชนีลบ10% โดยแตะต่ำสุดที่ 969.08 จุด 

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน(บจ.)นักลงทุน VI ใช้โอกาสนี้ช้อนซื้อ  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อปัจจัยพื้นฐานของหุ้น จากการรวบรวมข้อมูลของ "ฐานเศรษฐกิจ" ในแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่ามีผู้บริหารเข้าซื้อหุ้นคืนเป็นมูลค่าสูง ดังนี้

อันดับหนึ่งนายนิติ โอสถานุเคราะห์ นักลงทุนวีไอและกรรมการบมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล  (MINT ) ซื้อทั้งสิ้น10 รายการ ช่วงวันที่ 2 -13 มีนาคม 2563 รวม 47,326,700 หุ้น  มูลค่ารวม 1,234.43 ล้านบาท เฉลี่ยหุ้นละ 26.08 บาท  (ราคาสูงสุด 29.06 บาท และต่ำสุดที่ 20.90 บาท )  ส่งผลให้ปัจจุบัน นายนิติ ถือหุ้น MINT 413,281,551 หุ้น เป็นสัดส่วน 8.94% เพิ่มขึ้น 1.02%จากเดิมถือ 365,954,851หุ้น สัดส่วน 7.92%

รองมาคือนายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการและกรรมการ บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น หรือ AMATA ซื้อ 2 รายการ  เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 รวม 69,000,000 หุ้น หุ้นละ 9.80 บาท เป็นมูลค่า 676.20 ล้านบาท คิดเป็น 6.46% ส่งผลให้นายวิกรม ถือหุ้นเพิ่มเป็น 24.39% จากเดิมที่ถือ17.93% และเป็นการช้อนซื้อ หลังราคาหุ้น AMATA ดิ่งลง 33.45% จากต้นเดือนมีนาคม 2563 อยู่ที่ 14.50บาท

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ซื้อทั้งสิ้น 3 รายการ รวม1,300,000 หุ้น มูลค่ารวม 198.34 ล้านบาท เฉลี่ยหุ้นละ 152.57บาท  ด้านนายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG   ซื้อรวม 8,745,656 หุ้น มูลค่า 183.73 ล้านบาท เฉลี่ยหุ้นละ 21.01 บาท ส่วนนายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น หรือ SUPER ซื้อรวม 454,741,700หุ้น มูลค่า 171.22 ล้านบาท เฉลี่ยหุ้นละ 0.38 บาท  

กลุ่มจิราธิวัฒน์ ประกอบด้วยนายทศ จิราธิวัฒน์ประธานกรรมการบริหารและกรรมการ,สุทธิลักษณ์ จิราธิวัฒน์ ,ปริญญ์ จิราธิวัฒน์,พิชัย จิราธิวัฒน์และนส.วัลยา จิราธิวัฒน์ ซื้อหุ้นบมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ CRC  รวมกัน  2,755,000 หุ้น  มูลค่ารวม 93.28 ล้านบาท เฉลี่ยหุ้นละ 33.86 บาท  ต่ำกว่า 19.38% เทียบราคาไอพีโอก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์( 20 ก.พ.63 )ที่ 42.00 บาท 

 

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล กรรมการ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA  ซื้อ 5 ครั้ง รวม 2,290,300 หุ้น มูลค่ารวม 87.62 ล้านบาท เฉลี่ยหุ้นละ 38.26 บาท  นอกจากนี้ยังพบว่า นางสาวจรีพร จารุกรสกุล  ประธานคณะกรรมการบริษัทและกรรมการ บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ หรือ WHAUP ซื้อ 4 รายการรวม 3,036,800 หุ้น มูลค่ารวม 12.77 ล้านบาท เฉลี่ยหุ้นละ 4.20 บาท  ,นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท หรือ JMART ซื้อรวม 2,260,000 หุ้น มูลค่า 11.54 ล้านบาท ต้นทุนหุ้นละ 5.10 บาท  

นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ บมจ.กรุงเทพประกันภัย หรือ BKI ซื้อรวม44,900  หุ้น มููลค่ารวม 10.90 ล้านบาท เฉลี่ยหุ้นละ 242.72 บาท ,นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหารบมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ซื้อ7 รายการ ช่วงวันที่ 3-13 มีนาคม 2563 รวม 6,328,900 หุ้น มูลค่า 8.87 ล้านบาท เฉลี่ยหุ้นละ 1.40 บาท รวมถึงนายโอฬาร คูหาเปรมกิจ ประธานกรรมการบมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ หรือ GBX  ซื้อรวมกัน 5,606,600 หุ้น  มูลค่า 2.20 ล้านบาท เฉลี่ยหุ้นละ 0.39 บาท

ด้านนายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัทธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือTHG กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าเข้าซื้อหุ้น THG มาต่อเนื่อง  หากราคาลงก็ซื้อ ส่วนหนึ่งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นสะท้อนว่า ผู้บริหารมีความเชื่อมั่นกับทิศทางธุรกิจและศักยภาพการเติบโตของบริษัทที่โตต่อเนื่อง  อีกเหตุผลเป็นการลงทุนถัวเฉลี่ยในด้านต้นทุน (เทียบราคาไอพีโอที่ 38 บาท)  ซึ่งราคาปัจจุบัน (เฉลี่ย 21.00 บาท) ถือว่าต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานมาก THG เป็นหุ้นมีอนาคต.