วันนี้ (19 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้แจ้งปิดทำการในวันที่ 19-20 มีนาคม เนื่องจากพบเจ้าหน้าที่ของสำนักงานใกล้ชิดผู้ที่เข้าข่ายเป็นผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิท -19 โดยในช่วงดึกคืนวานนี้ (18 มี.ค.) ทางผู้อำนวยการสำนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้มีหนังสือแจ้งผ่านทางอีเมล ไปยังพนักงาน ของสำนักงานฯ ทุกคน
โดยในหนังสือระบุว่า สำนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ได้รับแจ้งจากพนักงานของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินรายหนึ่ง เมื่อวันที่ 18 มี.ค. เวลาประมาณ 19.30 น. ว่าเป็นผู้ใกล้ชิดบุคคลที่เข้าเกณฑ์ต้องสอบสวนและเฝ้าระวังโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
สำนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ จึงได้นำเรียนประธานผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้บริหารระดับสูงแล้ว ท่านมีความห่วงใยต่อเรื่องดังกล่าว จึงมีดำริให้สำนักงานฯ พิจารณาดำเนินการเพื่อให้พนักงานและลูกจ้างของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และผู้มาติดต่องานที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับความปลอดภัย
จึงเห็นควรดำเนินการมาตรการในเชิงป้องกัน คือ ปิดพื้นที่เพื่อทำความสะอาด พร้อมการฉีดพ่นกำจัดเชื้อโรคในวันที่ 19- 20 มี.ค. เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงกำหนดให้วันที่ 19 -20 มี.ค. เป็นวันหยุดงานของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน หากพนักงานและลูกจ้างรายใดจำเป็นต้องเข้าไปยังสถานที่ดังกล่าว สามารถเข้าพื้นที่ได้ในวันที่ 19 มี.ค. ไม่เกินเวลา 13.00 น.
ทั้งนี้ในหนังสือดังกล่าวยังระบุว่า ขอให้พนักงานและลูกจ้างปฏิบัติตามประกาศที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรหลีกเลี่ยงการติดต่อกับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยง หากพนักงานรายใดสงสัยว่าตนอยู่ในเกณฑ์ต้องสอบสวนและเฝ้าระวัง ขอให้รีบแจ้งมายังสำนักบริหารทรัพยากรมนุษย์เพื่อจะได้เตรียมดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยมีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ได้มีการปิดพื้นที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อทำการอบโอโซน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ถูกระบุว่าใกล้ชิดบุคคลที่เข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากมารดาของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวทำงานอยู่ที่ธนาคารซีไอเอ็มบี 1 ในสาขาที่สำนักงานใหญ่สั่งปิด เนื่องจากพบว่ามีพนักงานติดเชื้อโควิด-19 ที่คาดว่ามาจากการไปสนามมวยเมื่อวันที่ 6 มี.ค. เจ้าหน้าที่ของผู้ตรวจฯ คนดังกล่าวได้นำเรื่องมาหารือกับหัวหน้า ว่ามารดาอยู่ในข่ายและได้ทำการตรวจเชื้อแล้ว อีก 2 วันจะทราบผล
อย่างไรก็ตาม การสั่งปิดสำนักงานดังกล่าวเป็นความลับ และไม่มีการยกเลิกกำหนดการพาสื่อไปตรวจสอบโรงงานหน้ากาก แม้จะมีข้อสังเกตว่าการไปตรวจสอบครั้งนี้ ประธานผู้ตรวจการฯ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ระดับผู้อำนวยการไปเท่านั้น
นอกจากนี้การสั่งปิดสำนักงานฯ ยังไม่เป็นที่รับทราบของหน่วยงานอื่นภายในอยู่ศูนย์ราชการ อาคารบี ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทำงานและประชาชนมาติดต่อราชการตามปกติ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ระดับผู้บริหารของหน่วยงานต่างๆ จะทราบก่อนแล้ว อย่างเช่น สำนักงาน กกต. ที่ก่อนหน้าที่ได้แจ้งวาระงานของ กกต.นัดประชุมในเวลา 10.00 น. วันนี้ (19 มี.ค.) แต่ก็มีการแจ้งยกเลิกในคืนวันเดียวกัน โดยไม่มีการแจ้งเหตุผลการยกเลิกและไม่เดินทางเข้ามาสำนักงานฯ
ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า ขณะนี้ กกต.ได้เตรียมแนวทางรองรับการระบาดของโรคโควิด -19 โดยรอความชัดเจนจากประกาศกระทรวงสาธารณสุขและมาตรการของรัฐบาล ซึ่งได้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด หากมีความชัดเจนก็จะดำเนินการขั้นตอนต่อไป
เบื้องต้นมีการป้องกันความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ในการป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อ มีการวางเจลแอลกอฮอล์ทุกชั้นของสำนักงาน ทำความสะอาดลิฟท์โดยสารทุก 1 ชั่วโมง และให้พนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา อีกทั้งก็มีมาตรการในการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ก่อนที่จะเข้ามาภายในอาคารศูนย์ราชการ ตึก บี ที่มีความเข้มงวด ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ห่วงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ส่วนสำนักงาน กกต.ในต่างจังหวัดให้เป็นดุลยพินิจของ ผู้อำนวยการ กกต.จังหวัดนั้นๆ เป็นผู้พิจารณาดำเนินการตามสถานการณ์ของแต่ละจังหวัดให้เกิดความเหมาะสม
ขณะที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ของสำนักงานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่เป็นผู้อยู่ในเกณฑ์ต้องเฝ้าระวังติดเชื้อไวรัสโควิด- 19 นั้น ผลการตรวจก็จะออกในวันนี้ ( 19 มี.ค.) เวลา 19.00 น โดยทางสำนักงานระบุจะมีการแจ้งให้ทราบ รวมทั้งมาตรการการดำเนินการต่อไปของสำนักงานฯ