CPL ปรับแผนรับมือโคโรนา รุกตลาดรองเท้านิรภัยที่ผลิตเอง

19 มี.ค. 2563 | 04:07 น.

CPL เผย 2 เดือนสินค้ากลุ่มป้องกันโควิด-19 ดันยอดขาย ‘แพงโกลิน’ โต 6% แต่เจออุปสรรคผลิตไม่ทัน ปรับแผนหันทำตลาดกลุ่ม ‘แพงโก โซลูชั่น’ ปั้นรายได้ระยะยาว

นายภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CPL เปิดเผยว่า  ช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่”โควิด-19” ทำให้สินค้าในกลุ่มป้องกันภัยส่วนบุคคล (เซฟตี้โปรดักส์) ภายใต้แบรนด์ แพงโกลิน” มียอดขายเพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนทางกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลง โดยสินค้ากลุ่มผู้นำ คือ หน้ากาก Pango care ที่เติบโต 126% และชุดป้องกันฝุ่นและสารเคมี Ultitec ที่เติบโตถึง 600%  ขณะที่ยอดขายกลุ่มรองเท้านิรภัยเพิ่มขึ้น 2.5% และกลุ่ม PPE หรืออุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล เติบโตราว 15%

CPL ปรับแผนรับมือโคโรนา รุกตลาดรองเท้านิรภัยที่ผลิตเอง

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า จากความต้องการผลิตภัณฑ์กลุ่มป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นเกินกว่าความคาดหมาย ประกอบกับโรงงานผลิตสินค้าในจีนประสบปัญหาหยุดชะงัก ทำให้สินค้าในกลุ่มหน้ากาก Pango Care และ ชุดป้องกันฝุ่นและสารเคมี Ultitec มีปริมาณไม่เพียงพอต่อการจำหน่าย บริษัทฯ จึงตัดสินใจยุติการทำตลาดชั่วคราวจนกว่าโรงงานในจีนจะเริ่มผลิตและสามารถส่งออกสินค้าดังกล่าวได้อีกครั้ง ดังนั้น บริษัทฯ จึงปรับกลยุทธ์ด้วยการหันมาทำตลาดสินค้าในกลุ่มรองเท้านิรภัย เนื่องจากเป็นสินค้าที่ผลิตได้เองจากโรงงานแพงโกลิน ที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ที่ยังสามารถเดินหน้าผลิตได้เต็มกำลังการผลิตที่ 80,000 คู่ต่อเดือน และหมวกนิรภัยที่ผลิตได้ 60,000 ใบต่อเดือน ซึ่งสินค้าของแพงโกลิน สามารถเข้ามาเสริมความต้องการในตลาดเพิ่มเติมในช่วงที่รองเท้านิรภัยที่ผลิตในจีนหายไปจากตลาดได้อีกด้วย

CPL ปรับแผนรับมือโคโรนา รุกตลาดรองเท้านิรภัยที่ผลิตเอง

CPL ปรับแผนรับมือโคโรนา รุกตลาดรองเท้านิรภัยที่ผลิตเอง

“เราทำตลาดสินค้าในกลุ่มป้องกันโควิด-19 ได้ในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ แต่สินค้ากลุ่มนี้ต้องนำเข้าจากจีน ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอให้โรงงานในจีนพร้อมที่จะผลิตได้เต็มที่ จึงจะกลับมาทำตลาดได้อีกครั้ง ดังนั้น ช่วงนี้บริษัทฯ  จึงเน้นทำตลาดสินค้าที่ไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 รวมถึงทำตลาดผลิตภัณฑ์ SMART Sense ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ เป็นการเปิดตลาดใหม่ในกลุ่ม PANGO Solution จากที่เคยเน้นเฉพาะอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล จะขยายไปสู่สินค้านอกกลุ่ม เพื่อกระจายความเสี่ยง ลดผลกระทบจากการแข่งขันในตลาด และสร้างการเติบโตในอนาคต “

สำหรับอุตสาหกรรมฟอกหนัง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ CPL นั้น ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ภาพรวมของอุตสาหกรรมยังอยู่ในช่วงทรงตัว ทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปในลักษณะประคองตัว ขณะที่ลูกค้าแบรนด์ชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมรองเท้า ยังคงเป็นลูกค้าที่เหนียวแน่นของ CPL แม้ว่า ลูกค้าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโดยเฉพาะในยุโรป ที่ส่งผลต่อความตกต่ำของเศรษฐกิจโลกและฉุดให้กำลังซื้อลดลงก็ตาม