ขอปิดบ้าง สหภาพฯรถยนต์มะกันขอปิดโรงงาน 2 สัปดาห์หนีโควิด-19
ขณะที่กระแสการทำงานจากบ้าน รวมทั้งการให้พนักงานลาหยุดโดยไม่รับเงินเดือน กำลังถูกนำมาใช้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกันตัวเองและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ซึ่งขณะนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อแล้วในกว่า 160 ประเทศทั่วโลก สหภาพแรงงานในสหรัฐอเมริกาหลายแห่งได้เคลื่อนไหวเพื่อปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยล่าสุดวานนี้ (17 มี.ค.) สื่อต่างประเทศรายงานว่า สหภาพแรงงานรถยนต์สหรัฐอเมริกา (UAW) ได้ออกมาเรียกร้องให้บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในเมืองดีทรอยต์ มลรัฐมิแกน ของสหรัฐฯ ปิดโรงงานเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
พร้อมกันนี้ UAW ยังแจ้งเตือนว่า ทางสหภาพฯอาจจะดำเนินการในลักษณะ “เพียงฝ่ายเดียว” หากบริษัทต่างๆไม่สามารถกระทำการใดๆ ได้รวดเร็วฉับไวสอดคล้องกับสถานการณ์
นายโรรี แกมเบิล ประธาน UAW ระบุในจดหมายที่ส่งถึงสมาชิกของสหภาพฯว่า บริษัทรถยนต์มีเวลาถึงบ่ายวันอังคาร ตามเวลาสหรัฐฯที่จะตอบรับข้อเสนอให้ปิดโรงงาน หรือจะหารือกันในระดับต่อไป ซึ่งต่อมาสื่อต่างประเทศรายงานว่า UAW สามารถพบกันครึ่งทางกับบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งประกอบด้วย เจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ฟอร์ด มอเตอร์ และเฟี๊ยต ไครสเลอร์ ออโตโมบิลส์ โดยฝ่ายบริษัทในฐานะนายจ้างตกลงจะปิดสายการผลิตเป็นบางส่วนเพื่อให้มีการเข้าไปทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคก่อนที่จะมีการเปลี่ยนกะการทำงาน นอกจากนี้ยังขยายให้มีช่วงเวลาพักระหว่างกะมากขึ้น และจัดพื้นที่ให้คนงานสามารถดำเนินกิจกรรมห่างๆกันมากขึ้นทั้งในส่วนของโรงงาน โรงอาหาร และพื้นที่พักผ่อน ตามนโยบายเพิ่ม “ระยะห่างทางสังคม” (Social Distancing) เพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อระหว่างกัน
“สุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานคือสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญมากที่สุด เรากำลังทำงานร่วมกับ UAW อย่างใกล้ชิดและจะมีการประกาศรายละเอียดของข้อตกลงให้ทราบภายใน 24 ชั่วโมงนี้” ผู้บริหารของฟอร์ดระบุ ข้อตกลงระหว่างบริษัทรถยนต์และ UAW ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯไม่ต้องปิดโรงงาน 2 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยังอนุญาตให้พนักงานบางตำแหน่ง สามารถทำงานจากบ้าน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีการปิดโรงงานผลิตในจีนเป็นเวลายาวนานหลายสัปดาห์ และเมื่อเชื้อไวรัสลุกลามมากขึ้นในหลายประเทศแถบยุโรป ทั้งบริษัทฟอร์ด และเฟี๊ยต ไครสเลอร์ ก็ได้ประกาศแผน ซึ่งมีทั้งการปิดโรงงานและการยุติการผลิตชั่วคราวสำหรับโรงงานผลิตทุกแห่งที่มีอยู่ในยุโรป