DRT กางแผนสู้ศึกโคโรนาขยายตลาดรับสร้างบ้านรุกเจาะงานราชการ
ผลิตภัณฑ์ตราเพชร กางแผนรับมือเศรษฐกิจชะลอตัวพิษโคโรนา ชูแผนบริหาร Product Mix ใช้เทคโนโลยีสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ เร่งดันรายได้จากส่งออกหลังเมียนมามีแนวโน้มเติบโต ตั้งเป้ารักษาอัตราการเดินเครื่องจักรQ1/63เฉลี่ย 90-95% พร้อมรุกขยายตลาดกลุ่มรับสร้างบ้านและเจาะหน่วยงานราชการเพิ่ม
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบา ฯ ‘ตราเพชร’ เผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไวรัสโตโรนาหรือ COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม DRT ตั้งเป้าหมายยอดขายไตรมาส 1/63 ให้ได้เท่ากับหรือใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมุ่งรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยทั้งไตรมาสที่ระดับ 90-95% เพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยอยู่ในระดับต่ำ และใช้จุดแข็งด้านแบรนด์สินค้า ‘ตราเพชร’ ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย (Product Mix) สามารถนำไปใช้ก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง เพื่อผลักดันสินค้าผ่านทุกช่องทางจำหน่าย
นอกจากนี้ ยังมีช่องทางจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ จึงสามารถรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยในส่วนตลาดต่างประเทศนั้น จะมุ่งเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการส่งออกอีก 1-2% จากปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนส่งออกประมาณ 18% ของรายได้รวม หลังจากช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีของตลาดส่งออกในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะเมียนมาที่มีความต้องการใช้สินค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่ช่องทางห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่น่าจะได้รับผลดีจากการที่ผู้ประกอบการ มีแผนงานขยายสาขาในปีนี้รวมกันไม่ต่ำกว่า 10 สาขา ส่วนช่องทางร้านค้าตัวแทนจำหน่ายรายย่อยยังคงทรงตัว มีเพียงกลุ่มลูกค้าโครงการที่ชะลอตัวเล็กน้อย
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนงานเพิ่มโอกาสขายสินค้ามากขึ้น ผ่านกลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น การนำเทคโนโลยี Digital Printing มาใช้ในกระบวนการพิมพ์ลวดลายที่มีความคมชัดสูงลงบนพื้นผิวผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ เพื่อตอบโจทย์การออกแบบและความต้องการใช้สินค้าเพื่อการตกแต่งได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้าน กลุ่มลูกค้าโครงการในต่างจังหวัดและรุกเจาะกลุ่มหน่วยงานราชการ
“ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน บริษัทฯ มีความมั่นใจในฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ทั้งสภาพคล่องทางการเงินอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และอัตราหนี้สินต่อทุนที่อยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกันเราจะเร่งผลักดันยอดขายให้ได้ตามเป้าหมาย โดยมีแผนขยายตลาดและทยอยนำเสนอสินค้าใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคและรักษาอัตราการจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับเดียวกับในอดีตที่ผ่านมา” นายสาธิต กล่าว