ประชาชนควรรู้เพื่อรับสิทธิ์คืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า

18 มี.ค. 2563 | 06:14 น.

การไฟฟ้านครหลวงเปิดรายละเอียดการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า เดินตามมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายค่าครองชีพด้านพลังงานให้แก่ประชาชนตามมติครม.ก่อนหน้านี้

 

“ฐานเศรษฐกิจ”รวบรวมขั้นตอนการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง สำหรับผู้วางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย และประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก สามารถขอรับคืนเงิน ประกันการใช้ไฟฟ้าที่วางไว้ตามขนาดเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า หรือตามจํานวนเงินที่วางไว้กับการไฟฟ้านครหลวงตามตารางข้างล่างดังนี้

ประชาชนควรรู้เพื่อรับสิทธิ์คืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า

ส่วนขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าเริ่มจาก 1. ลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิและแจ้งความประสงค์การขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม2563 เป็นต้นไป ตามช่องทางการผ่านช่องทางออนไลน์  ในแอพพลิเคชั่น MEA Smart Life ,เว็ปไซค์ www.mea.or.th ,Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA , Twitter : @mea_news , Line : @meathailand ,สแกน QR Code ในใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจําเดือนมีนาคมเป็นต้นไป

ที่ทําการของการไฟฟ้านครหลวง 18 เขต  แนะนําให้ใช้บริการเฉพาะผู้วางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าที่มีปัญหาสิทธิต่าง ๆ เช่น เปลี่ยนชื่อนามสกุล เสียชีวิต ฯลฯ (สําหรับผู้วางหลักประกันที่ไม่มีปัญหาด้านสิทธิ แนะนําให้ลงทะเบียนช่องทางออนไลน์จะได้รับ ความสะดวกากกว่า

2. การไฟฟ้านครหลวงคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า (เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป) ผ่านช่องทางดังนี้ พร้อมเพย์ (Prompt Pay) ,บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ,ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการ (ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ) เนื่องจากผู้ได้รับสิทธิคืนเงินการใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวงมีเป็นจํานวนมาก (ประมาณ 3.87 ล้านราย) จึงแนะนําให้ผู้วางหลักประกัน ลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งการไฟฟ้านครหลวงจะคืนเงินประกันผ่านช่องทางที่ ผู้วางหลักประกันได้ระบุไว้ในขณะลงทะเบียน ซึ่งทําให้ได้รับความสะดวกในการคืนหลักประกันการใช้ไฟฟ้า และเป็น การป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้อีกทางหนึ่งด้วย หากต้องการรายละเอียดกรุณาติดต่อศูนย์บริการข้อมูล ผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ก่อนหน้านี้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานระบุว่า ประชาชนสามารถดำเนินการขอคืนเงินกับหน่วยงานที่ท่านยื่นเรื่องขอใช้ไฟฟ้า ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า ท่านขอใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)  นอกจากนี้ครม.ยังเห็นชอบตรึงอัตราเอฟทีเดือนพฤษภาคม 2563 ในอัตรา 11.60 สตางค์ต่อหน่วย หรือลดลง 11.60 สตางค์ต่อหน่วยจากค่าไฟฟ้าฐาน คิดเป็นวงเงินประมาณ 4,534 ล้านบาท ขณะเดียวกันเห็นชอบลดค่าไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในอัตรา 3% ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทเป็นระยะเวลา 3 เดือน

ขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทธุรกิจโรงแรมและกิจการให้เช่าพักอาศัยตลอดจนไม่คิดค่าปรับหรือดอกเบี้ยตลอดระยะเวลาการผ่อนผันโดยไม่มีการตัดไฟฟ้าและผ่อนผันได้ไม่เกิน 6 เดือนแต่ละรอบบิล ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2563 โดยผู้ใช้ไฟฟ้าต้องแจ้งความประสงค์ที่สำนักงานการไฟฟ้าในพื้นที่  และครม.ยังเห็นชอบให้กองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินภายใต้โครงการชุมชนปี 2563 จำนวน 6,600 โครงการวงเงินรวม 2,494 ล้านบาท เพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายในพื้นที่และพัฒนาฟื้นฟูท้องถิ่นในด้านสาธารณสุข อาชีพ การศึกษา และสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดนี้เป็นมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายค่าครองชีพด้านพลังงานให้แก่ประชาชน